วันนี้เราอยู่กับ HUAWEI FreeBuds Pro หูฟังไร้สาย TWS รุ่นใหม่ของ HUAWEI ที่มาสานต่อความสำเร็จของ HUAWEI FreeBuds 3 ที่มีจุดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยี เสียง และการคุยโทรศัพท์ที่ให้เสียงชัดเจนในแบบหาตัวเทียบยากทีเดียว จนทำให้ผมติดใจและใช้งานเจ้า FreeBuds 3 เป็นหูฟังคู่กายมาตลอด 1 ปีเต็ม และหลังจากได้ลองเจ้า FreeBuds PRo แล้วต้องบอกว่าตัวนี้จะมาเป็นหูฟังคู่กายตัวใหม่ของผมได้ไม่ยาก มาดูกันครับ
Unbox
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วย
- หูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro
- สายชาร์จ USB-C
- จุกหูฟังสำรอง 2 ไซส์
- คู่มือการใช้งาน
ดีไซน์ใหม่แบบ In-Ear
เจ้า HUAWEI FreeBuds Pro ปรับปรุงการดีไซน์ใหม่ โดยตัวกล่องเปลี่ยนรูปลักษณ์ใช้ทรงเหมือนเม็ดยา เพิ่มความกว้าง แต่ลดความสูงลง ตัวกล่องมีปุ่มสำหรับสั่งงานหนึ่งปุ่มที่ด้านข้าง ออกแบบให้สังเกตได้ยาก ส่วนด้านล่างเป็นพอร์ตชาร์จไฟและไฟแจ้งสถานะ
การหยิบหูฟังออกจากตัวกล่อง ผมเชื่อว่าครั้งแรกที่ได้ลองทุกคนจะหยิบออกมาได้ยากหมด เพราะแทบไม่มีเหลี่ยมมุมให้หยิบจับ ลื่นไปหมด แต่หลังจากลองใช้หลายๆ รอบก็ทำให้เจอเทคนิค คือต้องใช้นิ้วดันเข้าไปที่ฐานหูฟังด้านหน้าแล้วจะหยิบออกมาได้ง่ายๆ เลย
ตัวหูฟังมีรูปลักษณ์แบบ In-ear ก้านเป็นสี่เหลี่ยมค่อนข้างใหญ่ แต่สั้น หลายคนนำดีไซน์ไปเทียบกับ AirPods Pro ว่ามีหน้าตาคล้ายกัน แต่ถ้าเห็นของจริงต้องบอกว่าต่างกันพอสมควรเลยครับ
ตรงด้านล่างของก้านหูฟังจะมีขั้วโลหะสำหรับชาร์จไฟเวลาใส่เก็บในเคส
ด้านข้างจะมีช่องเปิด 4 ช่อง เป็นช่องไมโครโฟน ด้านในบริเวณสัมผัสกับใบหูจะเป็นเซ็นเซอร์ Wear Detection ที่จะหยุดเพลงอัตโนมัติเมื่อถอดหูฟังออกจากหู
การเชื่อมต่อและการใช้งาน
สำหรับการเชื่อมต่อ จะเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 ด้วย Codec AAC สามารถเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน ได้ทั้ง Android, Windows, iOS เลย วิธีการเชื่อมต่อทำได้โดยการเปิดฝาเคสขึ้นมา แล้วกดปุ่มข้างเคสค้างไว้จนไฟแสดงสถานะเปลี่ยนเป็นสีขาวกะพริบ จะเป็นการเข้าสู่โหมด Pairing และเชื่อมต่อเหมือนเชื่อมต่อหูฟัง Bluetooth ปกติได้เลย
ถ้าใช้ร่วมกับมือถือ HUAWEI จะมีเป็นหน้าป๊อปอัพเด้งขึ้นมาบนหน้าจอให้เชื่อมต่อง่ายๆ พร้อมบอกสถานะแบตเตอรี่ของหูฟังและเคสด้วย
การตั้งค่าหูฟังจะทำผ่านแอปที่ชื่อว่า AI Life สามารถดาวน์โหลดได้จาก Huawei AppGallery หรือดาวน์โหลดไฟล์ APK จากเว็บ HUAWEI มาติดตั้ง (จะเป็นคนละเวอร์ชันที่อยู่ใน Play Store) ส่วนแอปนี้ยังไม่มีใน iOS ครับ
แม้จะไม่มีแอปใน iOS แต่สามารถใช้งาน HUAWEI FreeBuds Pro กับมือถือ iOS ได้ตามปกติ เพียงแค่ไม่สามารถตั้งค่าหูฟังได้ หากจะตั้งค่าต้องนำมาตั้งใน Android ตัวหูฟังจะจำค่าไว้ให้โดยอัตโนมัติ
ตัวระบบ Noise Control ของตัวนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 ระดับ
- Cozy สำหรับสถานที่ที่มีเสียงรบกวนน้อย
- General สำหรับสถานที่ที่มีเสียงรบกวนพอประมาณ
- Ultra สำหรับที่ที่มีเสียงรบกวนมาก
แต่แนะนำให้เลือกเปิดแบบ Dynamic ไว้ครับ ตัวหูฟังจะปรับระดับเียงรบกวนเองตามการใช้งาน
ต้องบอกว่าระบบตัดเสียงรบกวนของ HUAWEI ทำมาดีตั้งแต่รุ่นที่แล้ว ที่แม้จะเป็นหูฟังแบบ Earbuds แต่ทำการตัดเสียงมาได้น่าประทับใจทีเดียว สำหรับรุ่นนี้ที่เปลี่ยนมาใช้เป็นหูฟังแบบ In-ear ยิ่งทำให้การตัดเสียงรบกวนดีกว่าเดิม และแก้ปัญหาระบบตัดเสียงรบกวนใช้งานไม่ได้เวลาโดนลมพัดได้แล้ว
โหมดใหม่คือ Awareness ที่จะดึงเสียงจากภายนอกมาเล่นในหูฟัง ทำให้เราสามารถใส่หูฟังพร้อมฟังเสียงภายนอกหรือสนทนากับผู่อื่นได้ ต้องบอกว่าระบบนี้ทำดีมากๆ ดึงเสียงคนออกมาได้ชัดเจนมากๆ พร้อมโหมด Enchance Voice ที่ระบบจะตัเดสียงรบกวน แต่ดึงให้เสียงคนพูดชัดขึ้นไปอีก
แอปยังมีระบบทดสอบ Tip fit test ดูว่าขนาดจุกหูฟังและการสวมใส่แน่นหนาและเหมาะสมกับหูเราหรือไม่ เพื่อให้เราเลือกขนาดจุกหูฟังได้อย่างเหมาะสม
สำหรับการสั่งงาน ตัวหูฟังจะมีเซ็นเซฮร์สำหรับรับการสั่งงานอยู่ที่หูฟังทั้งสองข้าง สังเกตไดด้อย่างชัดเจน โดยรอบนี้ทาง HUAWEI พัฒนาให้รับคำสั่งได้อย่างหลากหลายและครอบคุมการใช้งานอย่างจริงจัง ดังนี้
- บีบหนึ่งครั้ง : หยุด/เล่นเพลง | รับสาย/วางสาย
- บีบสองครั้ง : ข้ามไปเพลงถัดไป | ตัดสาย
- บีบสามครั้ง : กลับไปเพลงก่อนหน้า
- สไลด์ขึ้นลง : ปรับระดับเสียง
- บีบค้าง : ปรับโหมด Noise Control/เรียก Voice Assistant สามารถตั้งค่าได้
คุณภาพเสียง
ต้องบอกเลยว่า FreeBuds Pro ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน ตัวเสียงได้รับการพัฒนาให้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะเบสที่อิมแพ็คดีกว่าเดิม มีมิติมากกว่าเดิม แต่ไม่ไปกลบย่านอื่น เสียงโดยรวมออกมาในแนวฟังง่าย ฟังได้ทุกแนว เสียงร้องชัด แยกเครื่องดนตรีชัดเจน ใครที่ชอบเสียงของเจ้า FreeBuds 3 อยู่แล้วจะไม่ผิดหวังกับตัวนี้ครับ
แบตเตอรี่
สำหรับแบตเตอรี่ ตามสเปคสามารถใช้งานได้ตามนี้
ใช้งานกับ EMUI11
เล่นเพลง:
- 5 hours (with ANC enabled)**
- 8 hours (with ANC disabled)**
ใช้งานทั่วไป
เล่นเพลง:
- 4 hours (with ANC enabled)
- 7 hours (with ANC disabled)*
คุยโทรศัพท์:
- 2.5 hours (with ANC enabled)
- 3 hours (with ANC disabled)
ตรงนี้ผมได้ทดลองใช้ในแบบฟังเพลงเปิด ANC ซึ่งสามารถใช้งานได้ตามเวลาที่ให้มาเลยครับ สำหรับการชาร์จแบต ตัวนี้สามารถชาร์จแบบไร้สายได้ด้วย นำไปวางกับแท่นชาร์จไร้สายได้เลย หรือจะใช้กับมือถือที่มีฟีเจอร์ชาร์จย้อนกลับแบบไร้สายก็ได้
สรุป
HUAWEI FreeBuds Pro ไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นระบบตัดเสียงรบกวนที่พัฒนาให้ดียิ่งกว่าเดิม มีโหมด Awareness ด้านเสียงก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และยังใช้งานคุยโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เรียกว่าตัวผมที่ใช้ FreeBuds 3 อยู่ยังอยากอัปเกรดเลยครับ
