สำหรับใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาเริ่มต้น ไม่ว่าจะให้เด็กหรือผู้สูงวัยใช้ หรือแม้แต่ใช้เป็นเครื่องสำรอง วันนี้ผมมี Vivo Y12S มาแนะนำครับ จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. สเปคลื่นพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ลำโพงดังมาก และกล้องดีเมื่อเทียบกับราคา 4,299 บาท
แบตเตอรี่ขนาดมหึมา 5000 mAh และแปลงร่างเป็นพาวเวอร์แบงค์ได้
Vivo Y12S ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่มหึมาถึง 5000 mAh ถ้าหากคิดไม่ออกว่าปริมาณขนาดนี้จะใช้งานได้ประมาณไหน ก็ต้องบอกว่าถ้าเราดูหนังก็จะใช้งานได้สูงสุด 16.3 ชั่วโมง หรือถ้าเล่นเกมต่อเนื่องก็จะได้นานสุดที่ 8.9 ชั่วโมง
แบตเตอรี่เยอะจัด ก็แบ่งชาร์จให้เครื่องอื่นได้สบาย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ Reverse charging ที่แปลงตัว Vivo Y12S ให้กลายเป็นพาวเวอร์แบงค์แบบ 5V/1A ได้ด้วย ถ้าใครที่พกพาพาวเวอร์แบงค์อยู่แล้ว การเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้แทนก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ดีไซน์แบบ 2.5D ไม่ระคายปลายนิ้ว พร้อมการปลดล็อกบนปุ่ม Power

ด้านการออกแบบดีไซน์เป็นแบบ 2.5D ที่ลบขอบมุมทุกด้านไม่ให้ระคายเคืองปลายนิ้ว หน้าจอมีขนาด 6.51 นิ้วแบบ IPS บนความละเอียด HD+ ซึ่งความละเอียดระดับนี้แม้จะไม่คมชัดเท่า FHD+ แต่ก็มีข้อดีตรงที่การประมวลผลต่างๆ จะรวดเร็วกว่าและประหยัดแบตเตอรี่กว่า ด้านสีสันและคุณภาพจออยู่ในระดับทั่วไป เทียบเท่าหน้าจอในช่วงราคาไม่เกิน 7,000 บาทของปี 2020

ที่ด้านข้างมีปุ่ม Power ที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว แต่ถ้าไม่สะดวกที่จะสแกนลายนิ้วมือก็สามารถใช้การปลดล็อกด้วยใบหน้าได้เช่นกัน ซึ่งการปลดล็อกทั้งคู่ก็ประมวลผลได้เร็วไม่ติดขัดใดๆ

ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งาน
หากมองพฤติกรรมการใช้งานของคนกลุ่มนี้ ก็ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ใช้งานแอพพื้นฐานเท่านั้น เช่น Facebook, Line, YouTube ดังนั้นสเปคที่ให้มาก็นับว่าใช้งานได้สบาย แต่ถ้าคิดจะเอาไปเล่นเกมก็ได้เช่นกัน เพียงแต่จะเล่นได้ในระดับกราฟิกเริ่มต้นเท่านั้น และเฟรมเรทต่างๆ ก็ไม่ได้สูงลิ่วเหมือนเครื่องราคาที่สูงกว่า

ผมลองทดสอบเล่นเกมที่คิดว่าเครื่องราคานี้ไม่น่าจะเล่นได้ไหวอย่าง Survival Heroes ผลก็คือการตั้งค่าในระดับต่ำสุดก็สามารถเล่นได้ที่ 30 fps และส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 27-30 fps ช่วงที่หล่นสุดๆ ก็จะอยู่ที่ 21 fps หน้าเมนูต่างๆ มีหน่วงนิดๆ ระดับเสี้ยววินาที ซึ่งก็ไม่ได้เยอะจนขัดใจเพียงแต่มันไม่ใช่กดปุ๊บมาปั๊บ โดยรวมต้องบอกว่าทำได้น่าประทับใจในราคานี้ครับ

นอกจากนี้ยังมี Ultra Game Mode ที่ใส่ฟีเจอร์สำหรับการเปิดบอทแบบที่ปิดจอและเกมยังคงดำเนินต่อไป รวมถึงระบบ Game surround sound ที่ช่วยปรับแต่งเสียงให้มีมิติทิศทางเสียงสมจริงยิ่งขึ้น ซึ่งในตอนนี้ยังรองรับแค่เกมเดียวคือ Knives Out และยังมีฟีเจอร์อื่นๆ รวมถึงการรีดประสิทธิภาพให้การเล่นเกมลื่นไหลยิ่งขึ้น
มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และลำโพงดังมาก
น่าจะเป็นที่ถูกใจของใครหลายคน เพราะลำโพงของรุ่นนี้ดังมาก ดังบ้านแตก และคุณภาพเสียงก็จัดอยู่ในเกณฑ์ทั่วไป ไม่ได้ดีอลังการแต่ดังสะใจแน่นอน เรียกว่าตอบโจทย์คนชอบเสียงดังไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ขายที่ชอบดูหนังเปิดเพลงตอนเปิดร้านตั้งแผง หรือผู้สูงสัยที่หูไม่ค่อยจะดีแล้ว หรือแม้แต่การเปิดเพลงทดแทนลำโพงในบ้าน

กล้องดีมากเมื่อเทียบกับราคา
ในปี 2020 ต้องบอกว่าสมาร์ทโฟนที่มี Software กล้องน่าประทับใจที่สุดสำหรับผมก็คือ Vivo นั่นทำให้ Vivo Y12S มีผลลัพธ์ที่ดีเมื่อเทียบกับราคา ตัวกล้องหลังมีความละเอียดสูงสุดที่ 13 ล้านพิกเซล โดยใช้เลนส์ 2 ตัวช่วยกันประมวลผล ทำให้ได้ภาพที่ตัดขอบคมชัดสีสันสวยงาม และยังคงรักษาจุดเด่นด้านการถ่ายภาพบุคคลและบิ้วตี้ไว้ได้ รวมไปถึงกล้องหน้าที่เหมาะกับการเซลฟี่ จัดการสีผิวสกินโทนได้น่าประทับใจ

จุดต่างสำคัญเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในค่ายก็คือระบบ Editor ที่มีฟิลเตอร์และตัวตกแต่งภาพทั่วไปเท่านั้น ไม่มี AI อันเลื่องชื่ออย่าง HD Restore และ AI Image Matting แต่เมื่อมองที่ราคาและกลุ่มเป้าหมายก็สมเหตุสมผลดี
การออกแบบกล้องโดยรวมออกแบบมาเหมาะกับการให้เด็กใช้ รวมถึงผู้สูงวัยที่ไม่ต้องการโหมดเยอะ ขอแค่มีโหมดหลักๆ อย่างภาพนิ่ง วีดีโอ พาโนราม่า และโหมดบุคคล แค่นั้นพอ ถ้าเยอะกว่านั้นจะสับสน ส่วนโหมดอื่นๆ ก็จะมีเพียงแค่ Live Photo, Time-lapse และ Document สำหรับสแกนเอกสาร ซึ่งจะเห็นได้ว่าโหมดสำคัญอันหนึ่งที่หายไปคือ Night mode แต่ถ้ามองจากกลุ่มเป้าหมายแล้วก็ถือว่าเหมาะสมที่ไม่ใส่มา

เอาเป็นว่าในแง่ฟีเจอร์และลูกเล่นไม่ได้มีเยอะเท่ารุ่นราคาสูง แต่ในแง่คุณภาพไฟล์ถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับราคาครับ
สรุป Vivo Y12S ดีไหม?
ถ้าเป็นคนที่คลั่งตัวเลขสเปคคงบอกว่ารุ่นนี้ไม่น่าใช้ แต่ถ้ามองจากประสบการณ์ของผมก็ต้องบอกว่า Vivo ออกแบบมาได้สมเหตุสมผลบนความเข้าใจกลุ่มผู้ใช้อย่างแท้จริง ที่ผมบอกแบบนี้เพราะผมเองก็เป็นอีกคนที่มีประสบการณ์ตรงในการซื้อสมาร์ทโฟนช่วงราคานี้
…ไม่นานมานี้ผมต้องซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ให้พ่อที่อยู่ต่างจังหวัดและไม่ได้เข้าใจเทคโนโลยีอะไรมากนัก เค้าไม่เข้าใจว่าสาย USB-C คืออะไร เค้ารู้จักแต่สาย Micro USB และก็มีแต่สาย Micro USB การให้ผู้ใหญ่ที่เคยปรับตัวจากมือถือโบราณมาเป็นสมาร์ทโฟน ก็ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่แล้วและเค้าก็คุ้นเคยกับรูปแบบนั้นแล้ว
ดังนั้นการจะให้เปลี่ยนสายชาร์จที่เค้ามีอยู่ให้กลายเป็น USB-C มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างไม่สะดวก โดยเฉพาะตัดช่องเสียบหูฟังออกไป การที่ Vivo เลือกทำรุ่นนี้ให้มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และยังให้พอร์ตแบบ Micro USB ก็ถือว่าทำการบ้านมาดีและเข้าใจกลุ่มผู้ใช้อย่างมาก

แต่ในทางกลับกัน ถ้าใครที่มองหาเครื่องสำรองก็อาจมองว่า Micro USB ไม่สะดวกเท่าไร แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักเพราะอุปกรณ์หลายอย่างก็ยังคงใช้พอร์ตนี้อยู่ ถ้าหากมองกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นเด็กและผู้สูงวัย ก็จะเข้าใจต่อไปอีกว่าความละเอียดหน้าจอระดับ HD+ ไม่มีผลอะไรเลยกับคนกลุ่มนี้ สิ่งที่ต้องการจริงๆ คือหน้าจอที่ใหญ่ดูชัด และสามารถปรับขนาด Font ให้ใหญ่บิ๊กเบิ้มได้