รีวิว Redmi Note 9T สมาร์ทโฟน 5G สองซิมราคาเริ่มต้น 5,999 บาท ได้ลำโพงคู่และแบตเตอรี่ 5,000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็วด้วย!
เริ่มต้นปี 2021 ก็มีสมาร์ทโฟนที่ทำให้ชาวบ้านอยู่ยากออกมาวางขายแล้ว โดย Redmi Note 9T มีจุดเด่นตรงที่ Dual 5G สามารถใช้งาน 5G ได้ทั้งสองซิม และยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U กับลำโพงคู่และแบตเตอรี่ 5,000 mAh และยังรองรับการชาร์จเร็ว 18W ซึ่งทั้งหมดนี้มีราคาเริ่มต้นแค่ 5,999 บาทเท่านั้น!
สมาร์ทโฟน 5G กับราคาเปิดที่ถูกเหลือเชื่อ
สิ่งแรกที่ทำให้ Redmi Note 9T ชนะใจตั้งแต่แรกพบก็คือการรองรับ 5G แบบสองซิม มีให้เลือก 2 สีได้แก่ Nightfall Black และ Daybreak Purple ซึ่งวางขายแบบ Exclusive ซื้อได้แค่ที่ JD Central เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2564 โดยมี 2 ความจุให้เลือกคือ
- แรม 4GB ความจุ 64 GB ราคา 6,999 บาท
- แรม 4GB ความจุ 128 GB ราคา 7,499 บาท
แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่ถ้าซื้อระหว่างวันที่ 9-15 มกราคม 2564 จะได้ส่วนลดและของแถมเพิ่มอีกคือ
- รุ่น 64 GB ราคา 5,999 บาท https://u.jd.co.th/tatCkcG
- รุ่น 128 GB ราคา 6,599 บาท https://u.jd.co.th/totMDXu
และยังได้รับ Mi Band 4C มูลค่า 599 บาท และซิม AIS 5G มูลค่า 99 บาทเพิ่มไปอีก
วัสดุใช้งานได้โดยไม่ต้องใส่เคส มีช่องเสียบหูฟังพร้อมลำโพงคู่
ความประทับใจต่อมาก็คือการเลือกใช้วัสดุฝาหลังที่เป็น Texture คล้ายเม็ดทรายละเอียด ช่วยให้ถือได้กระชับมือและยังพื้นผิวแบบด้าน ทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นสมาร์ทโฟนที่เรากล้าใช้กล้าวางโดยไม่ต้องกลัวเป็นรอยแบบไม่จำเป็นต้องใส่เคส แต่ถึงกระนั้นในกล่องก็มีเคสใสแถมมาให้สำหรับคนที่ต้องการความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกระดับ
หน้าจอมีขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ขอบเขตของสี Color Gamut NTSC 84% พร้อมกับผ่านมาตรฐานการกรองแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland และยังเลือกใช้กระจกจาก Gorilla Glass 5 อีกด้วย นั่นหมายความว่าหน้าจอของรุ่นนี้มีสีสันที่เที่ยงตรงเพียงพอกับการใช้งาน พร้อมกับช่วยถนอมสายตาและมีความทนทานต่อรอยขีดข่วนพอตัว
ส่วนของลำโพงถือว่าโดดเด่นมากในราคานี้เพราะเป็นลำโพงคู่ ช่วยให้มิติทิศทางเสียงดีกว่าลำโพงเดี่ยว และยังให้เสียงที่ดีมากๆ เรื่องของความดังก็จัดว่าเหลือเฟือแม้จะไม่ใช่ลำโพงที่ดังที่สุดจากที่ผมเคยทดสอบมาแต่ก็ถือว่าดังมากครับ นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ให้ใช้งานอีกด้วย
เรื่องของถาดซิมก็น่าสนใจเพราะให้มาแบบ 2+1 หมายความว่าเราสามารถใส่ซิม 5G ได้สองใบและยังใส่ microSD ได้อีกด้วย
MediaTek Dimensity 800U ประสิทธิภาพน่าจับตามอง
หากได้ตามข่าวสารเชิงลึกก็จะเห็นว่าช่วงปี 2020 ทางเจ้าตลาดอย่าง Snapdragon เริ่มเสียตำแหน่งให้กับคู่แข่ง โดยเฉพาะ MediaTek ที่กลายเป็นม้ามืดมาแรง ซึ่งหากเทียบกันอย่างคร่าวๆ ให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้นก็ต้องบอกว่า MediaTek Dimensity 800U มีประสิทธิภาพใกล้เคียง Snapdragon 765G ที่นิยมใช้กันในกลุ่มเรือธงราคาประหยัด เรียกได้ว่าการเลือกใช้ MediaTek ในรุ่น Redmi Note 9T นั้นไม่ธรรมดาเลย
MediaTek Dimensity 800U เป็น SoC ที่ประกอบไปด้วย CPU 8 core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz ที่กระบวนการผลิต 7nm และใช้ GPU Mali-G57 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่สุดในกลุ่ม Mainstream GPU ของทาง ARM ที่ใช้สถาปัตยกรรม Mali Valhall
ข้อมูลจาก Review.co.th
นอกจากนี้ยังเลือกใช้แรมแบบ LPDDR4X ส่วนหน่วยความจำภายในจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือรุ่น 64GB เป็น UFS 2.1 ส่วนรุ่น 128GB เป็น UFS 2.2 ที่มีความเร็วในการเขียนมากกว่า
ในทางทฤษฎีแล้ว UFS 2.0 , UFS 2.1 จะมีความเร็วเท่ากัน ต่างกันแค่เรื่องระบบความปลอดภัย ส่วน UFS 2.2 ในเชิงทฤษฎีจะมีความเร็วในการเขียนสูงกว่า เพราะมีเทคโนโลยี Write Booster แต่ในทางปฏิบัติแล้วตัวเลขเวอร์ชั่นไม่ได้เกี่ยวกับความเร็วโดยตรง ขึ้นอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อยลงไปอีก
ข้อมูลจาก Review.co.th
จากการทดสอบเกม Survival Heroes ที่ผมเล่นเป็นประจำ ต้องบอกว่า Redmi Note 9T ทำได้เกินคาดมากๆ สามารถปรับกราฟิกได้ที่ระดับ High และยังสามารถเล่นได้ลื่นซึ่งถือว่าน่าประทับใจมาก เพราะบางรุ่นที่ราคาเกินหมื่นยังกระตุกหรือเฟรมเรทไม่สูงขนาดนี้
ในมุมมองของผมซึ่งเป็นสาย Casual Gamer ที่เล่นเกมยามว่างแก้เครียด ก็รู้สึกประทับใจมากทั้งในแง่ประสิทธิภาพความลื่นไหล การจัดการความร้อน รวมถึงการรับสัมผัสจากหน้าจอ
นอกจากนี้ยังต้องชื่นชมเรื่องแบตเตอรี่ 5,000mAh ซึ่งถือว่าเยอะกว่ามาตรฐานเรือธง และยังให้ระบบชาร์จเร็ว 18W มาอีกด้วย ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานยิ่งขึ้น เหมาะกับ Redmi Note 9T ที่เป็น Dual 5G
กล้องมีดีตรงลูกเล่นและการควบรวม Google Lens
ในยุคที่เราต้องสแกน QR เป็นประจำ บางรุ่นอาจจะต้องไปโหลดแอพเพิ่มแต่สำหรับ Redmi Note 9T ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอพใดๆ เพิ่ม เพราะตัวกล้องได้ฝัง Google Lens มาให้ด้วย ทำให้สามารถส่องกล้องเพื่อแปลภาษาได้ทันที หรือแม้แต่การค้นหาข้อมูลจากภาพ
การจัดวาง UI Layout ของแอพกล้องทำได้เข้าใจง่ายและยังสามารถ Customize ปรับแต่งเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ตามความถนัดช่วยให้คุ้นมือมากขึ้น นอกจากโหมดที่สมาร์ทโฟนยุคนี้ควรมีไม่ว่าจะเป็น Portrait และ Night mode ก็ยังมี Short video และ VLOG ที่เพิ่มสีสันได้เป็นอย่างดี
กล้องหน้ามีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.25 ส่วนสเปคกล้อง Triple rear camera 48MP + 2MP + 2MP จะแบ่งออกเป็น
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.6 ไมครอน รูรับแสง f/1.79
- กล้องวัดความลึก 2 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
เมื่อมองในแง่คุณภาพและความสวยงามก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ทั่วไปเมื่อเทียบกับราคา แต่มีดีที่ความสนุกตรงฟีเจอร์ลูกเล่น รวมถึง Image Editor ที่สามารถลบลายน้ำออกได้ในกรณีที่เราใส่ลายน้ำไว้และต้องการลบลายน้ำออกจากรูป รวมถึงการเปลี่ยนท้องฟ้าในวันที่บรรยากาศไม่เป็นใจ ที่ทำได้ง่ายๆ แค่กดไม่กี่ครั้ง
สรุป Redmi Note 9T ดีไหม?
ถ้าอยากได้สมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G และมีชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูงเล่นเกมได้ลื่นไหล พร้อมกับลำโพงคู่ที่ให้อรรถรสด้านความบันเทิงอย่างเต็มอิ่ม และช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ที่ไม่ต้องหาหัวแปลงมาใช้ บวกกับแบตเตอรี่ความจุมหึมา 5,000mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 18W ในราคาราว 7,000 บาท ก็ต้องเป็นรุ่นนี้เท่านั้นล่ะครับที่ตอบโจทย์