รีวิว Xiaomi 11T รุ่นสุดคุ้ม เร็ว แรง พร้อมฟีเจอร์วิดีโอแบบแน่นๆ

Xiaomi 11T สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีส์ T ของ Xiaomi ที่ขึ้นชื่อว่าสุดคุ้มค่าในราคาเข้าถึงง่าย สำหรับรุ่นล่าสุดนี้นอกจากความคุ้มค่าของสเปคแล้ว Xiaomi ยังเพิ่มความพิเศษเข้ามาด้วยฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอที่บอกเลยว่าเยอะไม่ธรรมดา

Cinemagic ถ่ายวิดีโอง่ายเหมือนมีเวทมนตร์

ขอเริ่มจากจุดขายของรุ่นนี้ก่อนเลยคือการถ่ายวิดีโอครับ ด้วยเซ็ตอัพแบบ 3 ตัวที่ครอบคลุมการใช้งานได้ดีมาก

• กล้องหลัก 108 MP f/1.8
• กล้องมุมกว้าง 8 MP f/2.2
• กล้องเทเลมาโคร 5 MP f/2.4

การถ่ายวิดีโอสามารถเลือกได้ว่าจะใช้กล้องตัวไหนถ่าย โดยกล้องมุมกว้างจะสามารถซูมแบบดิจิทัลได้ 2 เท่า และถ้าใช้กล้องหลักซึ่งจะได้คุณภาพที่ดีกว่าจะซูมได้ 6 เท่า พร้อมโหมดซูมเสียงที่ช่วยเก็บเสียงจากที่ไกลๆ ได้ตามการซูมของกล้อง

สามารถถ่ายวิดีโอด้วยกล้อง Telemacro ได้ด้วยครับ เรียกว่าเปิดมุมมองใหม่ๆ ได้เยอะเลย

มีโหมดวิดีโอนิ่งที่จะทำงานเฉพาะกล้องหลักและจะถูกครอปภาพเข้ามา แต่วิดีโอที่ได้จะนิ่งและมีความลื่นไหลเวลาแพนกล้องไปมา

โหมดติดตามวัตถุจะเป็นการล็อกโฟกัสที่วัตถุนั้นแม้กล้องเราจะเคลื่อนหรือตัววัตถุจะเคลื่อนก็ตาม ไม่ต้องกลัวหลุดโฟกัส

สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 16 MP f/2.5 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์เก็บเสียงด้านหน้า เหมาะสำหรับใช้ในการถ่ายวิดีโอ VLOG

แถมด้วยฟิลเตอร์สีที่ช่วยย้อมสีให้สวยงามแบบมืออาชีพอีก 13 แบบที่ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

และยังมีวิดีโอแบบโบเก้ที่ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังอีกเช่นกันครับ

และที่ขาดไม่ได้คือเอฟเฟกต์ภาพยนตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Xiaomi ที่ให้คุณสร้างสรรค์เอฟเฟกต์เก๋ๆ แบบในภาพยนตร์ด้วยมือถือเครื่องเดียว

1. ซูมเมจิก เอฟเฟกต์ซูมแบบ Vertigo ที่ปกติต้องใช้ทักษะการซูม เดิน และจับโฟกัสร่วมกันอย่างเป็นระบบ แต่ใน Xiaomi 11T ทำได้ง่ายๆ เพียงกดถ่ายแล้วดินถอยหลังเท่านั้น
2. ชัตเตอร์ช้า วิดีโอแบบภาพยืดๆ มัวๆ ให้อารมณ์แบบตัวละครกำลังเบลอๆ หรือรีบเร่งมากๆ สามารถสร้างได้ง่ายๆด้วย Xiaomi 11T เช่นกัน
3. หยุดเวลา เอฟเฟกต์สุดเก๋ที่ให้โลกหยุด แต่ตัวเรายังขยับอยู่แบบไม่ต้องผ่านโปรแกรมตัดต่อใดๆ
4. โลกคู่ขนาน เอฟเฟกต์ที่ให้โลกมีสองด้านแบบไม่ต้องผ่านโปรแกรมตัดต่อใดๆ อีกเช่นกัน

ดีไซน์สวยงามยามจับถือ

ดีไซน์รุ่นนี้ออกแบบมาสวยงามมากๆ โดยเฉพาะฝาหลังกระจกด้านและโมดูลกล้องขนาดใหญ่ที่โดดเด่น และหน้าจอแบบเรียบที่หลายคนหลงรักมากกว่าหน้าจอแบบโค้งครอบทับด้วยกระจก Gorilla Victus พร้อมด้วยความสามารถในการกันน้ำ IP53

รุ่นนี้จะมีความแปลกนิดนึงคือเป็นมือถือหน้าจอ AMOLED ที่ไม่ได้วางเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ในหน้าจอ แต่มาอยู่ที่ข้างตัวเครื่องตำแหน่งเดียวกับปุ่ม Power ซึ่งตรงนี้มีข้อดีคือพอเรากดเปิดหน้าจอปุ๊บก็จะเป็นการสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อกเลยทีเดียว ไม่ต้องย้ายตำแหน่งนิ้วมือไปมา

ประสิทธิภาพระดับหัวแถว

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง MediaTek Dimensity 1200 5G ซึ่งมีความแรงระดับสูสีกับชิปค่าย Qualcomm ตัว Snapdragon 865 ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของปีที่แล้ว มาใช้งานในปีนี้ก็ยังเร็วแรงอยู่ สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นแบบ UFS3.1 แรมเป็นแบบ LPDDR4X

ทดสอบเล่นเกม Genshin Impact เปิดกราฟิกระดับกลาง และปรับเฟรมเรทเป็น 60 fps สามารถเล่นได้แบบฝาหลังอุ่นๆ แต่ควบคุมความร้อนไว้ได้ เล่นเป็นระยะเวลานานอุณหภูมิไม่เพิ่มขึ้น และไม่ส่งผลกับประสิทธิภาพเกม อีกเกมที่ทดสอบคือเกมที่ผมเล่นเป็นประจำ Call Of Duty : Mobile เปิดกราฟิกระดับสูง เฟรมเรทระดับสูง สามารถเล่นได้ลื่นๆ แบบอุณหภูมิที่ตัวเครื่องเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

มาพร้อม Game mode ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพเครื่อง ปิดแจ้งเตือน รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามา

ที่ชอบที่สุดคือสามารถเปิดแอปเป็นหน้าต่างเล็กระหว่างเล่นเกมได้ด้วย

สำหรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายตัวนี้มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2

การรับชมความบันเทิง

สำหรับคนชอบดูหนังฟังเพลงบนมือถือ เรามาเริ่มที่หน้าจอกันก่อน ตัวนี้เป็นหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 120 Hz HDR10+ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Victus แสดงผลสีสันได้ดีเยี่ยมครับ ที่สำคัญคือมีโหมดปรับสีหน้าจอตามสภาวะแสงโดยรอบอัตโนมัติ ให้สีสันหน้าจอเที่ยงตรงในทุกสภาพแสง

การดู Netflix รองรับการแสดงผลระดับ FHD HDR เลยครับ เรียกว่าสูงสุดที่แอปทำได้

ทำงานร่วมกับลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมระบบปรับแต่งเสียง Dolby Atmos สามารถปรับ Equalizer ได้ สำหรับ Xiaomi 11T จะไม่ได้รับการจูนเสียงโดย Harman Kardon แบบรุ่นพี่ตัว Pro แต่เสียงที่ทำได้ต้องบอกว่าทำได้ดีเหมือนกัน เพียงแค่บุคลิกของเสียงจะมีความแตกต่างกัน

แบตเตอรี่

สำหรับแบตเตอรี่ตัวนี้ให้มา 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 67W แถมหัวชาร์จเร็วมาให้ในกล่องเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม สำหรับการใช้งานจริงของแบต 5,000 mAh ตัวนี้ ผมจะทดสอบโดยเปิดความสว่างหน้าจออัตโนมัติ ใช้งานในอาคาร เปิด Wi-Fi และเปิดรีเฟรชเรตไว้ที่อัตโนมัติ 120Hz

1. ทดสอบด้วยการเล่นเกม Call Of Duty : Mobile เปิดกราฟิกสูงสุด เฟรมเรทระดับสูง สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง 6 ชม.
2. ทดสอบชม YouTube ที่ความละเอียด FHD สามารถดูได้ต่อเนื่องถึง 16 ชม. 30 นาที

เรียกว่าแบตเตอรี่ทำได้ดีพอตัวเลยครับ

สรุป Xiaomi 11T เหมาะกับใคร

เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความครบเครื่อง หน้าจอ 120Hz คุณภาพดี ประสิทธิภาพเครื่องทำได้น่าประทับใจ กล้องมีฟีเจอร์ที่หลากหลายครบครัน โดยเฉพาะฟีเจอร์เปลี่ยนท้องฟ้าที่ใช้ง่ายและมีประโยชน์มากๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ประสิทธิภาพดี มีความครบเครื่องในทุกๆ ด้านในราคาสุดคุ้มค่า

นอกจากนั้น Xiaomi 11T ยังมีรุ่นพี่น้องอีกรุ่นคือ Xiaomi 11T Pro ที่สเปคโดยรวมของทั้งสองรุ่นใกล้เคียงกันมากๆ โดยมีจุดที่ต่างกันหลักๆ อยู่ 3 ส่วนด้วยกัน คือ รุ่น Pro จะขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 888 และชาร์จเร็วเพิ่มมาเป็น 120W เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพแบบสูงสุด และลำโพงคู่จูนเสียงโดย Harman Kardon ที่ให้บุคลิกของเสียงคนละสไตล์กับใน Xiaomi 11T ตัวธรรมดาครับ