รีวิว vivo X70 Pro ตัวจริงด้านการถ่ายภาพ Co-engineered with Zeiss

เมื่อพูดถึงมือถือกล้องเทพในปัจจุบัน แน่นอนว่า vivo X Series จะเป็นหนึ่งรุ่นที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ และในตอนนี้ vivo X70 Pro ได้มาอยู่ในมือผมแล้ว โดยรุ่นนี้ vivo ได้ร่วมมือกับ Zeiss อย่างแน่นหนาเข้าน้ำเข้าเนื้อยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก อัปเกรดประสิทธิภาพกล้องไปอีกขั้น มาดูกันครับ

หมายเหตุ เครื่องที่ได้มาทดสอบในรีวิวนี้ เป็นการทดสอบก่อนวางขาย อาจมี Software บางส่วนที่ไม่สมบูรณ์และการประมวลผลภาพถ่ายไม่ดีเท่าเวอร์ชั่นที่วางขาย

ดีไซน์เอกลักษณ์ โชว์พลังกล้อง

สำหรับใครที่ใช้ vivo X50 Pro และ vivo X60 Pro มาก่อนจะรู้สึกคุ้นเคยกับขนาดตัวเครื่องมากๆ เรียกว่ามีขนาดที่ใกล้เคียงกันมาก มาในรูปแบบของหน้าจอและฝาหลังเป็นกระจกแบบโค้ง ตัวเครื่องหนาเพียง 7.99 มม. และมีน้ำหนักเพียง 183 กรัม ซึ่งถือว่าเบามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน มี 2 สีให้เลือกคือ Cosmic Black และ Aurora Dawn

สำหรับฝาหลังรอบนี้มาในดีไซน์กระจกแบบด้านและโมดูลกล้องขนาดใหญ่ พร้อมด้วยโลโก้ธง Zeiss ที่แสดงถึงความร่วมมือกันในการพัฒนากล้องของรุ่นนี้ และเครื่องหมาย T* ซึ่งเป็นสารเคลือบเลนส์ชนิดพิเศษของ Zeiss ที่นำมาใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้

หน้าจอมาในขนาด 6.56 นิ้วเช่นเดิม ใช้หน้าจอ E5 AMOLED ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz HDR10+ พร้อมโหมดปรับรีเฟรชเรทอัจฉริยะตามคอนเทนต์ที่แสดงซึ่งจะช่วยเรื่องประหยัดแบตเตอรี่

ลำโพงยังเป็นลำโพงตัวเดียวเช่นเดิม แต่ปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดีกว่ารุ่นก่อนมากทีเดียวครับ และด้านบนของตัวเครื่องจะมีพอร์ต IR-Blaster สำหรับใช้มือถือแทนรีโมตเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ ใช้งานควบคู่กับแอป รีโมตอัจฉริยะ ในเครื่องได้เลย

กล้อง Co-engineered with Zeiss ประสิทธิภาพที่มาพร้อมฟีเจอร์ ไม่ใช่แค่เอาโลโก้มาแปะ

หลายครั้งที่สมาร์ทโฟนร่วมมือกับค่ายกล้องหรือค่ายเลนส์ แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นเล็กน้อยมากๆ จนหาความต่างแทบไม่เจอ …แต่ไม่ใช่กับ vivo และ Zeiss ที่ร่วมมือกันระดับถึงแก่น พัฒนาตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนออกมาเป็น vivo X70 Pro ที่สุดของกล้องมือถือที่คุณภาพสมกับโลโก้ Zeiss บนตัวเครื่อง

ภายในมาพร้อมกับซอฟต์แวร์พิเศษที่ร่วมพัฒนากับ Zeiss พร้อมชิ้นเลนส์ที่ใช้สารเคลือบ T* Coating เอกสิทธิ์พิเศษจาก Zeiss เพื่อคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น โดยมาพร้อมเซ็ตอัพกล้องแบบ 4 ตัว ดังนี้

1. กล้องหลัก 50 MP f/1.8 PDAF, Laser-AF, OIS
2. กล้องมุมกว้าง 12 MP f/2.2
3. กล้อง Portrait 12 MP f/2.0 (50 มม.) PDAF
4. กล้อง Periscope 8 MP f/3.4 OIS, PDAF, 5X Zoom

จุดเด่นอยู่ที่สไตล์ทั้ง 4 ที่เลียนแบบมาจากเลนส์ Zeiss รุ่นดังทั้ง Biotar, Sonnar, Planar และ Distagon เลนส์พวกนี้จะมีสีสันและสไตล์ของโบเก้ที่เฉพาะตัว

เซ็ตอัพกล้องครอบคลุมระยะตั้งแต่ 0.6X – 5X ถ้าเทียบกับกล้องฟิล์ม 35 มม. จะเทียบเท่าระยะ 16-125 มม.

ลองซูมสิ่งก่อสร้างในแสงช่วงเย็นๆ ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าน่าประทับใจทีเดียว ดีเทลพวกม่านและหน้าต่างยังอยู่ในเกณฑ์ดี

สาเหตุที่โหมด Portrait แทบทุกรุ่นจะถูกปรับเป็นกล้อง 2X เพราะนั่นคือระยะที่เหมาะกับการถ่าย Portrait ที่สุดและ vivo ก็มีโหมดถ่ายภาพบุคคลแยกมาให้ โดยเลนส์ที่ตั้งเป็นค่าเริ่มต้นคือเลนส์ ซูม 2 เท่า ซึ่งการใช้ระยะนี้จะให้การเบลอหลังที่ดูสมจริงว่า

มีฟีเจอร์ช่วยจัดองค์ประกอบภาพ เพื่อให้ภาพออกมาดีที่สุด โดยจะบอกตำแหน่งที่ควรวางคนในภาพ เมื่อเลื่อนมาตรงกล้องจะทำการถ่ายอัตโนมัติ

เลนส์มุมกว้างช่วยให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตแนวสตรีท เก็บบรรยากาศเมืองและสิ่งก่อสร้างได้สบายๆ

การจำลองโบเก้ทำได้ดีทีเดียว และสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสภายหลังได้ด้วย อย่างเช่นการเปลี่ยนจากโฟกัสคนให้กลายเป็นโฟกัสฉากหลังแทน เผื่อในบางกรณีที่อยากได้ภาพแนว Art หรือมี Gimmick

นอกจากคาแรกเตอร์ของ zeiss แล้ว รอบนี้ยังมี Style ที่น่าสนใจอีกตัวคือ ปาร์ตี้ เป็นสไตล์ที่ออกแบบมาสำหรับถ่ายตอนกลางคืน คือจะถ่ายรูปเราก่อนโดยการยิงแฟลช จากนั้นจะเปิดชัตเตอร์ค้างแล้วให้เราขยับมือถือไปมาเพื่อให้เกิดเอฟเฟกต์แสงแบบเป็นเส้นๆ

นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์สีจาก vivo ที่ทำการย้อมสีภาพให้ดูแปลกตาน่าสนใจยิ่งขึ้น

อีกจุดที่ทำได้ดีคือภาพตอนกลางคืนที่จัดการแสงและสีออกมาสวยงาม ดูไม่หลอกตา

ถ่ายแบบเปิดแฟลชเองก็ทำได้ดี แสงนวลไม่สว่างหลอกตา

การถ่ายกลางคืนเองจะมีฟิลเตอร์สีที่เซ็ตมาสำหรับถ่ายตอนกลางคืนโดยเฉพาะด้วยครับ เหมาะสำหรับถ่ายบรรยากาศแบบเมืองๆ นีออนๆ มาก

สำหรับกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ทำภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ

สำหรับใครที่คิดท่าถ่ายรูปไม่ออก ทาง vivo จะมีฟีเจอร์ที่รวบรวมท่าถ่ายรูปให้ทำตามง่ายๆ บนหน้าจอเลย

สำหรับสาวๆ มีโหมดความงาม หรือโหมดบิวตี้นั่นเอง สามารถปรับได้อย่างละเอียด ซึ่งสามารถมาปรับหลังถ่ายก็ได้ครับ ซึ่งสามารถปรับได้ทั้งรูปหน้า ผิวพรรณ จมูก คาง แก้ม ดวงตา พูดง่ายๆ ว่าปรับได้ทุกส่วนของใบหน้าเลย

Night portrait ผลลัพธ์ถือว่าทำได้ดีเช่นกันครับ สำหรับคนที่เซลฟี่ตอนกลางคืนไม่ต้องกังวลเลย ซึ่งข้อดีของโหมดนี้คือการได้ภาพที่ดูสว่างสวยโดยไม่ต้องเปิดแฟลชรบกวนคนรอบข้าง

อีกจุดเด่นของรุ่นนี้คือกล้องหลักที่มาพร้อมกับระบบกันสั่น Micro gimbal รุ่นที่ 3 ที่ทำได้ดีกว่าเดิม โดยกันสั่นจะมี 2 ระดับคือระดับปกติที่จะใช้งานได้ทุกความละเอียด และการกันสั่นแบบพิเศษที่จะให้ผลลัพธ์ที่นิ่งและสมูทกว่า จะทำงานที่ความละเอียดสูงสุด 1080P เท่านั้น

สำหรับฟีเจอร์จำลองโบเก้ ตอนนี้สามารถใช้งานในโหมดวิดีโอได้ด้วยครับ รวมถึงโหมดบิวตี้ด้วย

นอกจากนั้นยังมีโหมดใหม่ Super Night Video ให้การถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยได้คุณภาพยอดเยี่ยม แถมแสดงผลแบบ real time คือเราจะเห็นความแตกต่างทันทีตั้งแต่ในหน้าจอครับ แต่ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ก็จะดีกว่าในหน้าจอขึ้นไปอีก

ที่สำคัญคือตอนนี้มีโหมดโปรสำหรับวิดีโอแล้ว สามารถตั้งค่าต่างๆ ด้วยตัวเองได้เลย พร้อมเลือกให้โชว์ peak focus, peak brightness, ระดับเสียงของไมโครโฟนได้ รองรับการใช้งานไมโครโฟนภายนอกทางพอร์ต USB-C ด้วย

รอบนี้ไม่ได้มารุ่นเดียว แต่มาทั้ง vivo X70 Pro และ vivo X70

นอกจาก vivo X70 Pro แล้ว รุ่นน้องอย่าง vivo X70 ก็มาด้วย ถือเป็นครั้งแรกเลยที่รุ่นน้องเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยด้วยครับ โดยขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก MediaTek Dimensity 1200 5G เหมือนรุ่นพี่ แต่แรมลดเหลือ 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 128 GB

มีขนาดหน้าจอ 6.56 นิ้ว AMOLED 120Hz เหมือนกัน แต่ปรับเปลี่ยนจากหน้าจอโค้งเป็นหน้าจอแบนราบแทน สำหรับกล้องยังมาพร้อม Zeiss และ T* Coating และฟีเจอร์พิเศษไม่ว่าจะเป็นสไตล์พิเศษจาก Zeiss ทั้ง 4 แบบรวมถึงคุณสมบัติในการถ่ายภาพในที่มืด แต่เซ็ตอัพกล้องได้ปรับเปลี่ยนใหม่เหลือ 3 ตัว โดยเซนเซอร์หลักปรับเปลี่ยนมาเป็นความละเอียด 40 MP f/1.9 และตัดกล้อง Periscope ออก ถือว่าน่าสนใจสำรับคนที่ต้องการฟีเจอร์เด่นจาก Zeiss และ vivo ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ารุ่นพี่อย่าง vivo X70 Pro

ประสิทธิภาพทรงพลังด้วย Dimensity 1200

สำหรับ vivo X70 Pro ย้ายค่ายจาก Snapdragon ไปฝั่ง Mediatek แทน สำหรับตัวนี้ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Dimensity 1200 ถ้าเทียบกับฝั่ง Snapdragon แล้วประสิทธิภาพจะมีความใกล้เคียง Snapdragon 865 ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของปีที่แล้ว ก็ถือว่ายังแรงอยู่ในปัจจุบัน พื้นที่เก็บข้อมูล 256 GB UFS3.1 ไม่สามารถเพิ่มด้วย micro SD Card ได้ แรม 12 GB LPDDR มาพร้อมความสามารถในการนำพื้นที่เก็บข้อมูลมาใช้เป็นแรมได้อีก 4 GB เรียกว่าการใช้งานทั่วไปแรงหายห่วงเลย

การเล่นเกม จะมีโหมดสำหรับเล่นเกมชื่อ Ultra Game mode สามารถสไลด์เปิดได้จากหน้าเกม มาพร้อมฟีเจอร์ที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมดีขึ้น ทั้งปรับโปรไฟล์เครื่องเพื่อรีดประสิทธิภาพ หรือถ้าเล่นเกมที่ไม่ต้องการกราฟิกเยอะยังสามารถลดประสิทธิภาพเพื่อช่วยประหยัดแบตได้ด้วย รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ เช่น ปิดแจ้งเตือน เปิดระบบสั่น 4 มิติ ล็อกความสว่างหน้าจอ ปิดหน้าจอระหว่างเล่นเกม เป็นต้น และมีโหมด E-sport ที่จะปรับการตั้งค่าเครื่องตามที่นักกีฬา E-sport เลือกใช้

ต้องบอกว่าประสิทธิภาพเพียงพอที่จะเล่นเกมได้ทุกเกม แต่อาจจะเปิดกราฟิกสุดไม่ได้ทุกเกม ตัวอย่างเช่นเกม Call Of Duty : Mobile เมื่อเปิดเกม ตัวเกมได้ปรับกราฟิกแนะนำลงมาเป็นระดับสูงและเฟรมเรทระดับสูงทันที สำหรับประสบการณ์การเล่นเกมเรียกว่าทำได้ดีครับ เครื่องไม่ร้อน ประสิทธิภาพไม่ตก

ระบบปฏิบัติการใช้ Funtouch OS 12 บนพื้นฐานของ Android 11 โดยมีจุดเด่นหลักๆ คือหน้าจัดการ Widget ที่ทำออกมาเรียบง่ายขึ้น และปรับ Widget ระบบใหม่ให้สวยงามขึ้น โดยเฉพาะ Widget เครื่องเล่นเพลงที่ทำสวยมากๆ สามารถใช้ได้กับแอปเล่นเพลงทุกแอป

vivo X70 Pro ยังมาพร้อมมอเตอร์สั่นแบบ Linear motor เป็นมอเตอร์สั่นที่ให้การสั่นที่แม่นยำ สามารถสั่นได้หลากหลายรูปแบบ

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของ vivo X70 Pro เพิ่มความจุจากรุ่นเก่ามาเป็น 4,450 mAh ชาร์จเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 44W แถมหัวชาร์จมาให้ในกล่องเลย ไม่มีชาร์จไร้สายเช่นเดิมครับ สำหรับความอึดของแบตเตอรี่ ผมทดสอบใช้งานและดูปริมาณแบตที่ลดลง จากนั้นมาคำนวณว่าแบต 100% จะสามารถใช้งานได้นานแค่ไหนครับ

• ทดสอบเล่นเกม Call Of Duty : Mobile สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง 7 ชม. 30 นาที
• ทดสอบชม YouTube 1080P สามารถชมได้ต่อเนื่อง 10 ชม.

ต้องบอกว่าทำได้ดีทีเดียวสำหรับแบต 4,450 mAh โดยเฉพาะการเล่นเกมที่ถือว่าทำได้ดีเกินตัวมากครับ

สรุป vivo X70 Pro ดีไหม เหมาะกับใคร

สืบทอดตำนานมือถือกล้องเทพได้อย่างดีเลยครับ พาร์ทวิดีโอที่ทำได้ไม่ดีนักในรุ่นเก่า ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ในรุ่นนี้ โดยเฉพาะ Super night video และ Bokeh ทำได้ดีมากๆ ที่ชอบที่สุดคือการเพิ่มโหมด Pro สำหรับวิดีโอมาสักที แถมรองรับไมค์ภายนอกด้วย

ด้านภาพนิ่งที่เป็นจุดเด่นอยู่แล้วก็ปรับปรุงอีกขั้นด้วยฟิลเตอร์ใหม่ๆ โดยเฉพาะฟิลเตอร์จาก Zeiss ทั้งสี่ตัวเป็นจุดที่หาจากที่อื่นไม่ได้แล้ว ใครที่ชอบคาแรกเตอร์ของเลนส์ Zeiss ต้องตัวนี่แหละครับ ด้านประสิทธิภาพ Dimensity 1200 ถือว่าทำได้ดีทีเดียวโดยเฉพาะด้านแบตเตอรี่ และยังรักษาเอกลักษณ์เดิมคือตัวเครื่องที่บางเบา พกพาง่ายไว้เหมือนเดิมครับ

สั่งซื้อได้ที่ https://shp.ee/xi8keuj