รีวิว HUAWEI Mate 50 Pro มือถือเพื่อแฟนหัวเว่ย

เปิดตัวมาพักใหญ่สำหรับ HUAWEI Mate 50 Pro แต่พึ่งจะได้ฤกษ์ทำรีวิวสักที ดังนั้นผมจะเล่าเฉพาะจุดที่น่าสนใจครับ โดยรุ่นนี้หาซื้อได้ที่ Shopee และ Lazada รวมถึงร้านค้าทั่วไป

ที่สุดของกล้องบนมือถือ

หากจะมองหามือถือที่กล้องหลังอลังการที่สุด ผมคิดว่าต้องยกให้ HUAWEI Mate 50 Pro ครับ ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวที่สุดในตอนนี้ทั้ง 3 เลนส์

  • กล้องหลัก 50 MP แบบปรับรูรับแสงได้ตั้งแต่ F1.4 ถึง F4.0 พร้อมกันสั่นแบบ OIS
  • กล้องมุมกว้าง 13 MP รูรับแสง F2.2
  • กล้องเทเล 64 MP รูรับแสง F3.5 พร้อมกันสั่นแบบ OIS

จะเห็นได้ว่ากล้องหลักที่ปรับค่ารูรับแสงได้จริงด้วยชิ้นเลนส์ ทำให้แตกต่างจากคู่แข่งทั้งหมดในตอนนี้ที่ใช้ Software จำลองรูรับแสงเท่านั้น แต่ HUAWEI Mate 50 Pro นำเอาค่ารูรับแสงแท้ๆ ตั้งแต่ F1.4 – 4.0 มาประมวลผลร่วมกับ Software อีกที ทำให้ได้มิติภาพที่สมจริงที่สุดในตอนนี้ หรือถ้าจะใช้โหมดโปรแล้วถ่ายแสงไฟเป็นแฉกก็ทำได้

ถ้าเราลองใช้งานโหมดปรับรูรับแสง จะเห็นว่ามีเมนูให้เลือก 2 แบบ คือการปรับรูรับแสงจาก Software และการปรับจากชิ้นเลนส์ ซึ่งการปรับจากชิ้นเลนส์จะมีการไล่ระดับความเบลอได้เนียนกว่า เนื่องจากเป็นการปรับในระดับ Hardware ทำให้ได้อารมณ์การถ่ายคล้ายกับกล้อง Compact หรือกล้อง Mirrorless นั่นเอง

ในขณะที่กล้องมุมกว้างกับการใช้งานจริง ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องมี OIS เพราะการถ่ายมุมกว้างจะไม่เห็นผลจากการสั่นมากนักอยู่แล้ว ดังนั้นรุ่นนี้ถึงไม่ใส่ OIS ในเลนส์มุมกว้าง แต่ OIS จำเป็นมากเมื่อถ่ายไกลๆ ดังนั้นกล้องเทเลจึงให้ OIS มาด้วย พร้อมกับ Software ที่ช่วยลดทอนการสั่นลงไปอีกระดับ

การซูม 100 เท่าระดับหัวแถววงการ

ในขณะที่คู่แข่งโปรโมทเรื่องการซูมถึงดวงจันทร์ แต่เราก็รู้กันอยู่แล้วว่า HUAWEI คือรายแรกที่บุกเบิกเรื่องนี้ นั่นหมายความว่าการซูมของ HUAWEI Mate 50 Pro ก็อยู่ในระดับเดียวกันกับรุ่นใกล้เคียงเลย ดังนั้นถ้าจะซื้อไปซูมถ่ายดวงจันทร์หรือถ่ายคอนเสิร์ต ก็ถือว่า HUAWEI Mate 50 Pro ไม่แพ้ใครครับ

ระยะการซูมแบบด้วยตัวเลนส์ทำได้ที่ 3.5 เท่า และ 10 เท่า และถ้าไกลกว่านั้นจะเป็นการประมวลผลด้วย AI ไปจนถึง 100 เท่า ซึ่งถ้าถ่ายมั่วๆ แบบไร้จุดหมาย ภาพจะเทียบเท่า Digital zoom ทั่วไป แต่ถ้าเจอวัตถุที่ AI รู้จัก เช่น ใบหน้าหรือตัวอักษร ก็จะมีการประมวลผลให้ชัดขึ้น

ทางทีมงานเราได้ลองเอา HUAWEI Mate 50 Pro ไปถ่ายคอนเสิร์ตจริงๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือน่าประทับใจมากครับ ถ้ามือถือไม่เก่งพอ เจอแสงสีแบบนี้ ระยะแบบนี้ ตายสถานเดียว …แต่รุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีเลย

ที่สำคัญคือ HUAWEI Mate 50 Pro มีการปรับปรุงระบบซูมให้นิ่งขึ้น เมื่อซูมไกลๆ แล้วล็อกเป้าหมายได้ ตัวเครื่องจะช่วยลดทอนการสั่นของมือเราทำให้ไม่หลุดโฟกัส ส่วนการซูมวีดีโอทำได้ที่ 15 เท่า ซึ่งถ้าคิดจะเอาไปตามถ่ายไอดอลตามห้าง ก็อยู่ในระยะที่ถ่ายได้ครับ

ถ่ายอาหารได้สวย

ธรรมเนียมหนึ่งที่ต้องมีคือการถ่ายรูปอาหาร เพื่อเก็บบรรยากาศความรู้สึกในห้วงเวลานั้น และ HUAWEI Mate 50 Pro ก็ทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย ปิ้งย่างญี่ปุ่น หรือเบอร์เกอร์ ภายใต้แสงไฟสีเหลืองในร้านอาหาร หรือที่แสงน้อยก็เอาอยู่

ถ่ายภาพบุคคลได้ดีมาก

ด้วยการใช้ชิ้นเลนส์ที่ปรับรูรับแสงได้แท้ๆ ทำให้การตัดขอบและมิติความเบลอสวยเหมือนกล้องแท้ๆ และยังมีโบเก้เอ็ฟเฟ็กต์ให้เลือกหลายรูปแบบ เพิ่มความน่าสนใจ

กล้องมุมกว้างที่ใกล้เคียงกล้องหลัก

โดยทั่วไปแล้วกล้องมุมกว้างจะมีคุณภาพต่ำกว่ากล้องหลักเยอะพอตัว แต่สำหรับรุ่นนี้ให้สีสันใกล้เคียงกับกล้องหลัก นอกจากนี้ความโค้งที่ขอบยังค่อนข้างน้อยอีกด้วย

กล้องหน้าดีเกินคาด

ส่วนมากมือถือที่เน้นกล้องหลังมักมีกล้องหน้าที่ไม่ดี แต่ HUAWEI Mate 50 Pro มีกล้องหน้าในระดับดีมาก ตัดขอบได้เนียนแม้ว่าฉากหลังจะสีดำกลืนไปกับเส้นผม ดึงสีผิวออกมาไม่ขาวโพลน เก็บรายละเอียดเส้นผมได้คม และยังเลือกลักษณะของโบเก้ได้เช่นเดียวกับกล้องหลัง ว่าจะให้เบลอฉากหลังด้วยรูปแบบประมาณไหน เช่นเลือกแบบโบเก้ดวงใหญ่ๆ, หัวใจ, หมุนเป็นวงกลม ฯลฯ

รีวิว HUAWEI Mate 50 Pro มือถือเพื่อแฟนหัวเว่ย 97

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลพวงมาจากการใช้กล้องแบบมุมกว้าง 13 MP รูรับแสง F2.4 และยังมี 3D Depth Sensing Camera ที่ช่วยวัดความลึกของภาพ ทำให้การประมวลผลออกมาสวยงามขึ้น

งานวีดีโอมีความน่าสนใจ

จุดแรกที่ทำได้น่าประทับใจมากคือความเร็วในการจับโฟกัส การเปลี่ยนจุดโฟกัสแพนกล้องสลับไปยังวัตถุอื่นทำได้เร็วมาก และการโฟกัสก็เนียนไม่มีโยกเข้าโยกออก ระบบกันสั่นเดิมๆ ก็ทำได้ดีพอใช้ถ่ายคลิปทั่วไป แต่ถ้าต้องการกันสั่นในระดับที่วิ่งถ่ายก็เปิดโหมด Steady Shot เพิ่มได้

แน่นอนว่าโหมด Tracking Shot ก็ยังคงมีมาให้ ซึ่งโหมดนี้จะจำลองการแพนกล้องตามตัวเรา แม้ว่าเราจะเดินซ้ายขวาก็จะพยายามจัดให้เราอยู่ในเฟรมตลอดเวลา เหมาะกับ Content Creator เช่น YouTuber, Tiktoker ที่ฉายเดี่ยวตั้งกล้องถ่ายเอง

ส่วนกล้องหน้าก็ให้มุมมากว้างมาก ทำให้การถือถ่าย Vlog สะดวกมาก ดูแล้วไม่อึดอัด ด้านความละเอียดก็ทำได้สูงสุดที่ 4K 60fps และยังมี HDR Vivid VDO ให้ใช้งาน โดยต้องใช้ร่วมกับหน้าจอที่รองรับด้วย

กล้องโหมดอื่นก็น่าสนใจ

อันที่จริงแล้ว HUAWEI เป็นมือถือที่เด่นด้านกล้องมายาวนาน ทำให้มีโหมดเด่นๆ หลายอย่าง เช่น Slow-Mo อันเลื่องชื่อที่ดึงสโลว์ได้ช้ามากๆ เหมาะจะถ่ายช็อตเท่ๆ รวมถึง Light Painting ที่ช่วยให้การถ่ายน้ำตกฟุ้งๆ ถ่ายดาวสวยๆ หรือถ่ายแสงไฟจากรถยนต์ให้เป็นเส้นๆ ได้อย่างง่ายที่สุด

และยังมี Snapshot สำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความเร็วในการลั่นชัตเตอร์ แบบกดปุ๊บถ่ายปั๊บ โดยจะลดทอนคุณภาพลงมาเล็กน้อยเพื่อให้จับภาพได้ทัน เหมาะกับการถ่ายเด็กวิ่งเล่น หรือวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วๆ

และในโหมดโปรก็โปรทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ที่สำคัญเลยก็คือโหมดปรับรูรับแสง ด้วยความที่รุ่นนี้เป็นรูรับแสงแบบแท้ๆ จากชิ้นเลนส์ทำให้มีตัวเลือกการปรับทั้งแบบ Physical aperture ที่ปรับจากชิ้นเลนส์จริงๆ และแบบ Virtual aperture ที่จำลองรูรับแสงเหมือนที่รุ่นอื่นๆ ทำ

ข้อดีของการปรับค่ารูรับแสงจากชิ้นเลนส์จริงๆ ก็คือภาพระยะชัดตื้นชัดลึกเป็นมิติจริงไม่หลอกตา และไม่มีการพลาดตัดขอบเพี้ยน ในขณะที่การจำลองรูรับแสงอาจมีการตัดขอบพลาดบ้างในกรณี หรือภาพดูมิติหลอกๆ นอกจากนี้โหมดปรับรูรับแสงยังใช้ร่วมกับการถ่ายวีดีโอได้อีกด้วย

คาแรกเตอร์ของภาพ

HUAWEI Mate 50 Pro มาพร้อมกับ XMAGE แทนที่ Leica ที่แยกทางกันไป โดย XMAGE ปรับได้ 3 แบบคือ Original, Vivid, Bright ซึ่งถ้าเอาแบบที่คนส่วนใหญ่ชอบ ก็แนะนำให้ตั้งไว้ที่ Vivid ที่ให้สีฉูดฉาดกว่าความเป็นจริงแต่ถูกใจคนมอง ซึ่ง Vivid จะช่วยให้อาหารดูสดขึ้น รวมไปถึงสีท้องฟ้า และสิ่งต่างๆ ที่ถ่ายมา

ในการใช้งานจริงก็ทำได้สวยงามทั้งสีสันและมิติของภาพ แต่จุดสังเกตอยู่ตรงที่แสงน้อยหรือการถ่ายของสีดำสนิททั้งภาพ เพราะ HUAWEI Mate 50 Pro จะพยายามดึงแสงขึ้นมาทำให้ภาพสว่างขึ้น ซึ่งอันนี้ก็อยู่ที่ความชอบของแต่ละคน ถ้ามองว่าเอาไปถ่ายเพื่อเก็บข้อมูลก็ถือว่าทำได้ดีมาก แต่ถ้าถ่ายเอาอารมณ์ความมืดก็อาจจะต้องปรับเพิ่ม

ประสิทธิภาพและการใช้งานทั่วไป

การเลือกใช้ Snapdragon 8+ Gen 1 กับแรม 8 GB และ EMUI 13 ก็ทำออกมาได้ลื่นน่าประทับใจและเสถียรมากๆ ซึ่ง HUAWEI ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและความเสถียรอยู่แล้ว ส่วนการที่ไม่มี 5G แน่นอนว่าบางคนอาจจะรู้สึกขัดใจ แต่ในทางปฏิบัติผมไม่รู้สึกต่างขนาดนั้น เพราะการใช้งานส่วนใหญ่ก็เป็นการเล่นโซเชียลทั่วไป และคนส่วนใหญ่ก็ไม่เอาเน็ตมือถือมาโหลดไฟล์ใหญ่ๆ ดังนั้นผมมองว่ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่จุดที่ต้องพูดถึงก็คือ HUAWEI โดดเด่นเรื่องภาครับส่งสัญญาณอยู่แล้ว นั่นทำให้สัญญาณ Wi-Fi ของ HUAWEI Mate 50 Pro อยู่ในเกณฑ์ดีมาก รับสัญญาณได้เต็มหลอด โดยเฉพาะการใช้ร่วมกับ Gadget บางชนิดก็จะเห็นผลชัดเลย เช่น ผมใช้ร่วมกับ bebird M5 Pro เพราะผมเคยผ่าตัดหูเลยต้องดูแลหูเป็นพิเศษ ถ้าเป็นมือถือบางรุ่นแม้จะเป็นเรือธงก็ส่งสัญญาณกระตุก แต่สำหรับ HUAWEI แทบไม่มีปัญหาเลยครับ

รีวิว HUAWEI Mate 50 Pro มือถือเพื่อแฟนหัวเว่ย 111

หน้าจอขนาด 6.74 นิ้ว OLED, 120 Hz refresh rate, 1440 Hz high frequency PWM dimming, 300 Hz touch sampling rate ก็ทำได้ดีไม่มีที่ติ ส่วนระบบเสียงจากลำโพงก็อยู่ในระดับหัวแถว

ดูแล้วก็จัดว่าครบเครื่องแต่การถูกกีดกันทางการค้าและถูกตัด Google ออกไป ก็มีผลกับหลายคน แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ผูกติดกับ Google มากนักก็สามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหา โดยสามารถโหลดแอปได้จาก AppGallery ซึ่งแอปดังๆ ทั้งไทยและสากลก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าอยากใช้งาน LINE และแอปอื่นๆ ได้ก็ต้องติดตั้ง LightHouse เพิ่ม ซึ่งเวอร์ชั่นล่าสุด ( ของมาเลเซีย ) รองรับแอปของ Google เกือบทั้งหมดแล้ว สามารถใช้ Google Home, Gmail, YouTube, Google Maps ฯลฯ ซึ่งถ้าใจรัก HUAWEI และต้องใช้ Google จริงๆ ก็ประยุกต์ใช้ได้ครับ โดยส่วนตัวผมใช้ร่วมกับ Aurora Store สำหรับโหลดแอป การดู Netflix ได้ Widevine: L1 สามารถดูได้ที่ความละเอียด Full HD แต่ไม่รองรับ HDR

บทสรุป HUAWEI Mate 50 Pro

สิ่งที่ทำให้ผมคิดถึง HUAWEI มากก็คือประสบการณ์ใช้งานจริงที่ดีมาก แม้ประทั่งการแคปจอที่ง่ายแค่เคาะจอ ซึ่ง HUAWEI Mate 50 Pro ก็ให้ประสบการณ์โดยรวมที่ดีมาก เว้นแต่คุณจำเป็นต้องใช้ Google แบบขาดไม่ได้ ก็อาจจะอึดอัดหน่อยๆ แต่ถ้าคิดว่านี่คือกล้องที่ลงแอปและโทรได้หรือเป็นคนที่พก 2 เครื่องแล้วคาดหวังเรื่องกล้อง HUAWEI Mate 50 Pro ก็ตอบโจทย์มากครับ