รีวิว HUAWEI MatePad 11 2023 ราคา 15,990 บาท กับแท็บเล็ตที่ทดแทนคอมพิวเตอร์
แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของทางค่ายอย่าง HUAWEI MatePad 11 2023 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทดแทนการทำงานของคอมพิวเตอร์ ในลักษณะของ PC-Like ด้วยการมีคีย์บอร์ด ช่องเก็บปากกา HUAWEI M-Pencil 2nd generation และสามารถเชื่อมต่อเมาส์เพิ่มได้ ทำให้มีประสบการณ์ใช้งานคล้ายกับแล็ปท็อปนั่นเอง
ราคาและโปรโมชั่น HUAWEI MatePad 11 2023
HUAWEI MatePad 11 2023 WIFI 6+128GB วางขายในราคา 15,990 บาท โดยมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการพรีออเดอร์ ระหว่างวันที่ 28 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 [ https://bit.ly/3KFb2ad ]
- รับฟรี! HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท
- รับฟรี! ปากกา HUAWEI M-Pencil 2nd generation มูลค่า 4,490 บาท
- และสิทธิพิเศษจากแอปฯ ต่างๆ ได้แก่ HUAWEI Cloud 1 เดือน (200GB) มูลค่า 99 บาท และ WeTV VIP 3 เดือน มูลค่า 429 บาท มูลค่ารวม 11,498 บาท
พิเศษกว่านั้นเมื่อสั่งจองผ่าน HUAWEI Experience Store รับเพิ่ม HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490 บาท
ประสบการณ์ใช้งานประหนึ่งโน้ตบุ๊ค
หัวเว่ยวางบทบาทของแท็บเล็ตเครื่องนี้ในลักษณะการใช้งานแบบ PC-Like ที่ครอบคลุมการใช้งานพื้นฐานทดแทนคอมพิวเตอร์ได้ โดยอาศัยคีย์บอร์ดและปากกา M-Pencil 2 รวมถึงการเชื่อมต่อเมาส์เพิ่มเติม และการรองรับแอปด้านการทำงาน เช่น การจัดการงานเอกสารด้วย WPS หรือ Microsoft 365 ทำให้จัดการเอกสารได้ทั้ง Word, Excel, PowerPoint, PDF
จุดถัดมาคือการขีดเขียนได้ง่ายด้วยปากกา M-Pencil 2 ที่รองรับแรงกดถึง 4,096 ระดับ และยังมีฟีเจอร์ที่มาพร้อมปากกา อย่างเช่น การปัดที่มุมบนขวาของจอ เป็นทางลัดเข้าสู่การจับภาพหน้าจอแล้วขีดเขียน รวมถึงการวาดลงไปใน Word ไม่ว่าจะเป็นการ feedback แก้ไขเอกสารของทีมงาน หรือการวาดภาพประกอบ ก็ทำได้ทั้งนั้น
สำหรับคนที่ทำงานด้านการวาดเขียนหรือกราฟิก ก็สามารถโหลดแอปวาดรูปได้เช่น IbisPaint X, MediBang Paint ส่วนงานด้านการตัดต่อวีดีโอ จะเลือกใช้ Petal Clip ของ HUAWEI เอง หรือจะใช้ FilmoraGo HD ที่ติดมากับเครื่องก็ได้ หรือจะใช้ CapCut แอปยอดฮิตก็สะดวกเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมี Free Script ที่แปลงลายมือให้กลายเป็นตัวอักษรได้ โดยสามารถเขียนลงในช่องต่างๆ ได้ทันที เช่น ช่องค้นหา และรองรับการเขียนด้วยภาษาไทยด้วย รวมถึงฟีเจอร์ Cross-app Colour-Capture ที่สามารถดูดสีจากแอปอื่นๆ มาใช้งานได้บน HUAWEI Note
สำหรับคนที่ต้องการทำงานแบบ Multitask เปิดหลายหน้าต่างพร้อมกัน ก็ปัดแอปขึ้นไปด้านซ้ายจะเป็นการแบ่งครึ่งหน้าจอเพื่อใช้งาน 2 แอปพร้อมกัน หรือจะปัดไปด้านขวาก็จะเป็นการเปิดหน้าต่างลอยเหนือแอปอื่น โดยสามารถเปิดพร้อมกันสูงสุดได้ 4 แอป และย่อเก็บด้านข้างได้ 10 หน้าต่าง
ในการใช้งานแท็บเล็ต ผมมักแนะนำให้ใช้งานผ่านหน้าเว็บ เนื่องจากแอปหลายๆ ตัวจะทำงานได้สมบูรณ์กว่าเมื่อเป็นเวอร์ชั่นเว็บ ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้ว HUAWEI MatePad 11 2023 ก็ครอบคลุมการทำงานพื้นฐานของคนส่วนใหญ่แล้วครับ
VDO Call ประชุมได้สะดวก
HUAWEI MatePad 11 2023 วางกล้องหน้าไว้กึ่งกลางเมื่อใช้งานในแนวนอน ทำให้ง่ายต่อการเปิดกล้องคอลประชุม นอกจากนี้ยังมีกล้องหลังไว้ใช้สลับ เผื่อต้องถ่ายบรรยากาศต่างๆ ในการสื่อสาร และระบบเสียงมาพร้อม AI ที่ช่วยตัดเสียงรบกวน เพื่อให้คู่สนทนาได้ยินเสียงของเราได้ชัดเจน และเราก็ได้ยินเสียงอีกฝั่งชัดเจนด้วยลำโพง 4 ตัว
SuperHub พื้นที่เก็บของชั่วคราว
โดยปรกติแล้วถ้าอยากจะเก็บประวัติข้อความการ Copy ที่คัดลอกไว้ เราอาจต้องใช้แป้นพิมพ์ที่รองรับ แต่ HUAWEI เลือกใช้วิธีที่สากลและเป็นมิตรมากกว่า ด้วยการใช้ SuperHub ที่เก็บประวัติการคัดลอกข้อความ รวมถึงสามารถลากไฟล์ไปวางพักไว้ชั่วคราวได้ด้วย
วิธีใช้งานก็แค่กดคัดลอกข้อความ ข้อความก็จะไปอยู่ใน SuperHub ให้อัตโนมัติ และถ้าต้องการเก็บไฟล์ ก็แค่ลากไฟล์ไปใส่ง่ายๆ เลยครับ เวลาจะใช้งานก็ปัดขอบจอแล้วจิ้มเลือกได้เลยว่าจะดึงไฟล์ รูป หรือข้อความไหน และยังเชื่อมโยงกับแลปท็อปของ HUAWEI ได้ด้วย SuperHub นับเป็นจุดสำคัญที่สร้างความต่างระหว่าง HUAWEI กับเจ้าอื่น และเป็นส่วนที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก
ดีไซน์ดีมาก
สิ่งที่น่าชื่นชมและทีมผมก็ชื่นชอบ คือเรื่องของการดีไซน์ในทุกภาคส่วนครับ ถ้ามองที่ตัวเครื่องเทียบกับ HUAWEI MatePad Pro 11-inch ก็อาจจะคิดว่าขอบจอดูหนากว่า แต่สิ่งที่ได้มาก็คือการวางกล้องไว้กึ่งกลางในแนวนอน ทำให้ได้ประสบการณ์ใช้งานคล้ายแล็ปท็อปหรือโน้ตบุ๊คที่คนคุ้นเคย
และที่สร้างความโดดเด่นให้กับรุ่นนี้เลยก็คือเคสที่ดีมากๆ ห่อหุ้มปกป้องทุกมุมโดยไม่เทอะทะ ช่วยป้องกันริ้วรอยและการกระแทกได้ระดับหนึ่ง ตัวแป้นพิมพ์ก็ยกขอบด้านข้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเครื่องอีกระดับ ตัวปุ่มให้ความรู้สึกเหมือนพิมพ์จากแป้นของแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์ทั่วไปเลย
เครื่องขายจริงในไทยจะเป็นแป้นพิมพ์ภาษาไทย
จุดเด่นอีกอย่างคือช่องเก็บปากกาด้านบนเว้นเว้าเข้ารูปปากกาพอดี ทำให้เราสามารถพกพาได้อย่างมั่นใจขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอชนแล้วปากกาหล่นหาย
ที่สำคัญเลยก็คือตัวเคสสามารถแยกเป็น 2 ชิ้นได้ โดยส่วนของหน้าจอก็กางเป็นขาตั้งได้ ส่วนชิ้นล่างที่เป็นแป้นพิมพ์ ก็สามารถเอามาวางบนตักและพิมพ์ได้เหมือนคีย์บอร์ดบลูทูธทั่วไป ทำให้เรามีอิสระในการใช้งานมากขึ้น และยังช่วยลดปัญหา office syndrome ได้ด้วย
ทำงานสะดวก พักผ่อนก็เพลิน
HUAWEI MatePad 11 2023 มีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2.5K กับอัตรารีเฟรช 120Hz ขอบเขตสี DCI-P3 ที่แสดงผลได้สวยงามและยังเป็นมิตรกับดวงตาด้วยมาตรฐาน TÜV Rheinland ที่ช่วยลดทอนแสงสีฟ้าที่ระคายสายตา รวมถึงการกระพริบของหน้าจอที่ทำให้ตาต้องทำงานหนัก ด้านระบบเสียงก็มาพร้อม Histen8.0 และลำโพง 4 ตัวเพิ่มความกระหึ่มให้การดูหนังฟังเพลง
รับสิทธิ์ดู WeTV VIP ระยะเวลา 3 เดือน สำหรับ HUAWEI MatePad 11 2023
Ecosystem ที่สะดวกกว่า
จุดที่ทำให้ผมรัก HUAWEI คือการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ที่ดีมาก เมื่อเราถ่ายรูปด้วยมือถือเช่น HUAWEI Mate 50 Pro รูปถ่ายก็จะ Sync มาที่ HUAWEI MatePad 11 2023 เพื่อให้เราทำงานต่อได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้งานจอที่ใหญ่กว่า มีคีย์บอร์ด มีปากกา หรือจะเชื่อมต่อกับ HUAWEI MateBook 16s เพื่อเป็นจอเสริมที่รองรับการสัมผัสด้วย สะดวกสุดๆ ครับบอกเลย
รวมถึงการเชื่อมต่อหูฟังอย่างเช่น HUAWEI FreeBuds Pro 2 ก็กดเชื่อมต่อหรือสลับเครื่องได้ง่าย เอาเป็นว่าถ้าคุณใช้ HUAWEI อยู่แล้วและใช้ต่อ มันจะดวกมากจริงๆ
ประสบการณ์ใช้งานจริง
ผมลองใช้งาน HUAWEI MatePad 11 2023 แทนการใช้คอมพิวเตอร์เลย 1 วัน โดยใช้ร่วมกับอุปกรณ์ของ HUAWEI พบว่ามันสะดวกมากครับ ผมถ่ายรูปด้วย HUAWEI Mate 50 Pro แล้วโยนเข้า HUAWEI MatePad 11 2023 จากนั้นทำการโพสต์รีวิวบน WordPress ได้ง่ายๆ ด้วยหน้าจอที่ใหญ่และมีคีย์บอร์ด
ด้านการตัดต่อวีดีโอ เมื่อเปิดใช้งาน CapCut บนแท็บเล็ต การแสดงผล UI ก็จะคล้ายกับการใช้แอปตัดต่อบนคอม ทำให้ใช้งานได้สะดวก และตัว CapCut ก็รองรับการวาด ดังนั้นเราสามารถใช้ปากกาวาดขีดเขียนลงไปในคลิปได้ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานวีดีโอของเรา
มาถึงงานประชุมกันบ้าง ทีมผมทำงานผ่าน Lark ซึ่งมีให้โหลดใน AppGallery รูปแบบการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นการแชทซะมากกว่า แต่สำหรับประเด็นสำคัญก็จะเป็น VDO Conference ซึ่งแท็บเล็ตรุ่นนี้ก็ทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลำโพงและไมค์ รวมไปถึงการมีกล้องหน้าอยู่ตำแหน่งกึ่งกลางพอดี ทำให้จัดองศาการนั่งได้ง่าย ส่วนการทำงานผ่านหน้าเว็บ ส่วนตัวผมชอบใช้ Kiwi Browser เนื่องจากติดตั้ง Chrome Extension ได้ ทำให้ใช้งานได้คล้ายกับคอมพิวเตอร์ขึ้นไปอีกระดับ
โดยรวมแล้ว HUAWEI MatePad 11 2023 รองรับการทำงานทดแทนคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมดที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน แต่ในกรณีที่ยังต้องการใช้งานหรือติดตั้งแอปของ Google ก็สามารถหาโหลด LightHouse มาลงเพิ่มได้ ถ้าใช้คู่กับ Aurora Store ก็จะติดตั้งแอปได้สะดวกมาก
จุดที่ผมชอบเป็นพิเศษคือการออกแบบเคสที่พกพาสะดวกมาก และเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานได้ดีด้วยขอบกันกระแทกรอบตัว พร้อมที่เก็บปากกาทำให้ไม่หล่นหายง่ายๆ
ระหว่างวันผมก็จะเปิดนั่นดูนี่ตามประสามนุษย์ยุค Digital เวลาที่อยากนอนดู YouTube หรือ Netflix ผมก็ถอดจอออกจากคีย์บอร์ด นอนดูได้ง่ายๆ หรือเวลาอยากเอนตัวก็วางจอไว้บนโต๊ะ แล้วเอาคีย์บอร์ดวางไว้บนตัก ก็ทำให้เราได้เปลี่ยนท่าทางลดอาการปวดเมื่อยบ้าง ในทางปฏิบัติแล้ว สำหรับผม HUAWEI MatePad 11 2023 ทดแทนคอมพิวเตอร์ได้เกือบทั้งหมด ทั้งเรื่องงานรวมถึงเรื่องการพักผ่อน
บทสรุป
ถ้าอิงตามการใช้งานจริง ก็ถือว่า HUAWEI MatePad 11 2023 ใช้งานทดแทนคอมพิวเตอร์ได้แทบทั้งหมด โดยเฉพาะคนทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์เจาะลึกเป็นพิเศษสำหรับแอปบางตัว ซึ่งถ้าว่ากันจริงๆ แล้วแอปบางอย่างทำงานบนแท็บเล็ตได้ดีกว่าบนคอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำ เช่นการอัพ Instagram, TikTok ทำได้ง่ายกว่าถ้าเป็นบนแท็บเล็ต ในขณะเดียวกันก็มีความคล่องตัวสูงทั้งในแง่การพกพา และในแง่ระบบที่เปิดกว้างให้เข้าถึงไฟล์ต่างๆ ได้ง่าย
การมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ทำให้ HUAWEI MatePad 11 2023 มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ หรือหากจะใช้แบบ Standalone ก็ยังมีฟีเจอร์เจ๋งๆ อย่าง SuperHub ที่ช่วยอำนวยความสะดวก หากมองที่ราคา 15,990 บาท และได้ของแถมฟรีครบชุด ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่คุ้มค่ามากๆ ครับ