รีวิว HUAWEI WATCH FIT Special Edition สมาร์ทวอทช์คู่กาย

HUAWEI WATCH FIT Special Edition สมาร์ทวอทช์หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว พร้อมระบบชาร์จไว รองรับการแจ้งเตือนและตอบกลับบน iOS และ Android

โปรโมชั่น

HUAWEI WATCH FIT Special Edition วางขายในราคา 2,699 บาท พร้อมโปรโมชันพิเศษเมื่อสั่งซื้อสินค้า 8.8 นี้ สำหรับลูกค้า 60 ท่านแรก ที่สั่งซื้อทางร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada รับฟรีกระบอกน้ำสแตนเลส มูลค่า 790 บาท

กดใส่ตะกร้า | 8.8 โปรดี HUAWEI WATCH Fit Special Edition อุปกรณ์สวมใส่

฿2,699

ดูรายละเอียด

รับฟรี กระบอกน้ำสแตนเลส มูลค่า 790 บาท สำหรับลูกค้า 60 คนแรก

สรุปจุดเด่น HUAWEI WATCH FIT Special Edition

ความน่าสนใจของสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ มีอยู่ จุดหลักคือ

1. หน้าจอขนาดใหญ่ 1.64 นิ้ว แบบ AMOLED สีสันคมลึก สู้แสงได้ดี และมีหน้าปัดให้เลือกกว่า 10,000 แบบ ทั้งฟรีและแบบเสียเงินซื้อ
2. ตรวจจับวัดค่าพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้ เช่น SpO2, Heart Rate และการนอนหลับ
3. มี GPS ในตัวเพื่อการออกกำลังกาย และมีโหมดให้เลือกกว่า 100 แบบ
4. โหมดออกกำลังกายที่เพิ่มเข้ามาใหม่ 4 โหมด
   • ฟุตบอล
   • บาสเกตบอล
   • เทนนิสในร่ม
   • eSports
5. แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 9 วัน พร้อมชาร์จไว 65 นาทีเต็มหลอด
6. รองรับการเชื่อมต่อ iOS และ Android พร้อมการแจ้งเตือนและตอบกลับผ่านหน้าปัดได้ทันที

ดีไซน์เพื่อการใช้งานประจำวัน

HUAWEI WATCH FIT Special Edition ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวเพื่อการใช้งานของคนส่วนใหญ่ เริ่มตั้งแต่หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว ที่ใหญ่ในระดับมองได้ชัด สั่งงานได้สะดวก แต่ยังอยู่ในระดับคล่องตัวพกพาง่าย ซึ่งหน้าจอก็มีคุณภาพการแสดงผลดีมาก ด้วยความอิ่มของสีจากพาแนลแบบ AMOLED ทำให้ได้สีดำสนิท สีดูลึก และสู้แสงได้ดี และยังมีความละเอียดระดับ 326PPI ที่จัดว่าคมชัดสำหรับหน้าจอขนาดนี้

ด้านความสบายใจการสวมใส่ก็มีน้ำหนักเพียงแค่ 21 กรัม จัดว่าเบาสบายมาก ทำให้เราสามารถใส่ทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวันได้อย่างไม่อึดอัด แม้กระทั่งตอนนอนก็ไม่รู้สึกหนักแขน จึงเหมาะที่จะสวมใส่ไว้ตลอดเวลา แม้กระทั่งการอาบน้ำก็ไม่มีปัญหา เพราะ HUAWEI WATCH FIT Special Edition กันน้ำได้ลึกระดับ 5 ATM หรือแปลอย่างง่ายก็คือกันน้ำในระดับชีวิตประจำวันได้

การจะเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ดีแบบตรวจจับวัดค่าเราได้ทุกสิ่ง ก็จำเป็นต้องมีแบตเตอรี่ที่ยาวนาน เพื่อให้เราถอดชาร์จน้อยที่สุด ซึ่งรุ่นนี้ก็แบตเตอรี่อึดในระดับที่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุดได้ 9 วัน แต่ถ้าหากมีกิจกรรมเยอะๆ เช่นเปิดโหมดออกกำลังกาย หรือมีการแจ้งเตือนและตอบกลับบ่อยๆ ระยะเวลาการใช้งานก็จะลดหลั่นลงมา แต่อย่างไรก็ตามเราใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 65 นาทีก็เต็มหลอดพร้อมใช้อีก 9 วันแล้ว

ประเด็นที่สำคัญมากสำหรับหลายคน คือการแสดงผลภาษาไทย ซึ่งหัวเว่ยได้พัฒนาอุปกรณ์จนถึงระดับที่แสดงผลภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์และสวยงาม ดังนั้นหากต้องการซื้อไปให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ ก็ไม่ใช่ปัญหาเลย แอปพื้นฐานที่ใช้ประจำวันก็มีครบถ้วน ตั้งแต่นาฬิกาปลุก, การจับเวลา, เครื่องเล่นเพลง, สภาพอากาศ, ตัวช่วยค้นหามือถือ

จับคู่ได้ทั้ง HarmonyOS, Android และ iOS

จุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือสมาร์ทวอทช์ค่ายนี้รองรับมือถือทุกระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้ง HarmonyOS, Android และ iOS เพียงแค่ติดตั้งแอป HUAWEI Health ก็พร้อมใช้งานได้แล้ว โดยจุดสำคัญก็คือการแจ้งเตือนและการตอบกลับ

ปรกติแล้วสมาร์ทวอทช์ทั่วไป มักมีปัญหาเมื่อใช้ร่วมกับ iOS แต่ HUAWEI WATCH FIT Special Edition แทบจะไม่ต่างเลยในการใช้งานจริง โดยสามารถเลือกได้ว่าจะรับการแจ้งเตือนจากแอปไหนบ้าง และที่สำคัญคือสามารถตอบกลับข้อความจากแอปต่างๆ ด้วยข้อความด่วนที่เราตั้งค่าไว้

นั่นจึงทำให้ HUAWEI WATCH FIT Special Edition เหมาะกับการใช้งานของทุกคน ไม่ว่าคุณจะใช้มือถือรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ก็สามารถใช้ร่วมกับสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ได้

ปรับแต่งสีสันตามไลฟ์สไตล์

นอกจากสีสันตัวเรือนและสายที่มีให้เลือก 3 สีได้แก่ Starry Black, Nubula Pink, Forest Green แล้ว การปรับแต่งหน้าปัดก็เป็นส่วนสำคัญ นอกจากจะมีหน้าปัดให้เลือกใช้มากกว่า 10,000 แบบแล้ว ความน่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือหัวเว่ยมี AI ช่วยสร้างหน้าปัดในแบบของเราด้วย เมื่อเราถ่ายภาพลวดลายต่างๆ ที่อยากได้ AI ก็จะประมวลผลออกมาเป็นหน้าปัดรูปแบบต่างๆ ให้เราเลือกใช้

ครบถ้วนฟีเจอร์ด้านสุขภาพ

หากได้เห็นเบื้องหลังของทีมวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ย ก็จะเข้าใจว่าทำไม HUAWEI TruSeen การตรวจจับวัดค่าด้านสุขภาพของหัวเว่ยจึงให้ความแม่นยำสูง ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ก็ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการวัดค่าสำหรับคนออกกำลังกายมากขึ้น โดยสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ กับค่าออกซิเจนในเลือด และแจ้งเตือนเมื่อค่ามีความผิดปรกติ

ด้านการออกกำลังกายนอกสถานที่อย่างการวิ่ง ก็มี GPS ในตัวเพื่อบันทึกเส้นทางการวิ่ง โดยไม่จำเป็นต้องพกมือถือ ซึ่ง GPS Tracking ก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะการวิ่ง แต่รวมไปถึงการออกกำลังกายกลางแจ้งทุกประเภท เช่น การขี่จักรยาน หรือการว่ายน้ำ

ความน่าสนใจของสมาร์ทวอทช์จากหัวเว่ย ก็คือไม่ใช่แค่การวัดค่า แต่ยังมีผู้ช่วยส่วนตัวไว้แนะนำการออกกำลังกาย โดยอิงจากสถิติต่างๆ แล้วออกแบบการฝึก รวมถึงระยะเวลาที่ต้องพัก ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมี Recovery time, VO2Max, Condition updates, Training status, Training load

ไฮไลท์สำคัญด้านการออกกำลังกายคือโหมดใหม่ที่เพิ่มเข้ามา 4 โหมด ได้แก่

• ฟุตบอล
• บาสเกตบอล
• เทนนิสในร่ม
• eSports

นอกจากนี้ยังมี HUAWEI TruSleep 3.0 ที่บอกพฤติกรรมการนอนได้ละเอียด ไม่ใช่แค่หลับหรือตื่น ได้บอกได้ว่าหลับลึกแค่ไหน คำนวณออกมาแล้วเราได้หลับพักผ่อนจริงๆ กี่ชั่วโมง เพื่อให้เราเข้าใจและปรับปรุงพฤติกรรมการนอนได้

และที่ผมชอบที่สุดคือการวัดค่าความเครียด บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าเราเครียดเกินไป นอกจากจะทำให้เราป่วยง่ายแล้ว ความเครียดยังส่งผลต่อสภาวะทางอารมณ์และการแสดงออก รวมถึงการตัดสินใจอีกด้วย ดังนั้นการมีอุปกรณ์เตือนสติว่าเราเครียดอยู่ ก็ช่วยให้เราจัดการชีวิตได้ดีขึ้นมาก

ประสบการณ์ใช้งาน HUAWEI WATCH FIT Special Edition

สิ่งที่แรกที่อยากรู้คือความต่างกับ WATCH FIT รุ่นก่อนๆ ซึ่งผมมี WATCH FIT 2 อยู่ เลยหยิบมาเทียบกัน ก็พบว่าหน้าจอเล็กกว่ากันนิดหน่อย ซึ่งถ้าเน้นความคล่องตัว WATCH FIT Special Edition ก็อาจจะเหมาะกว่า อย่างช่วงนี้ผมกำลังทำบ้านใหม่ ก็มีการขนของและความสมบุกสมบันมากกว่าเวลาปรกติ ซึ่งการใส่สมาร์ทวอทช์ที่หน้าปัดมีขนาดเล็ก มันลดโอกาสที่หน้าจอจะโดนขีดข่วน

ส่วนตัวแล้วผมไม่ใช่สายออกกำลังกาย ( เป็นสายกิน ) แต่ผมก็ชื่นชอบฟีเจอร์ด้านสุขภาพของหัวเว่ย ที่สามารถวัดค่าในชีวิตประจำวันได้ อย่างเรื่องการวัดค่าความเครียด เป็นสิ่งที่ทำให้ผมติดหัวเว่ยมาก เพราะผมเป็นคนที่คิดตลอดเวลา จนบางครั้งก็เครียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมันส่งผลเสียต่อสุขภาพ พอเห็นกราฟค่าความเครียดพุ่งก็จะได้จัดการชีวิตถูก

รวมไปถึงการนอน ซึ่งพอเป็นคนที่คิดตลอดเวลา ก็มักจะนอนหลับไม่สนิท แม้จะนอนไปหลายชั่วโมง แต่การหลับลึกจริงๆ อาจมีแค่ชั่วโมงเดียวก็ได้ ซึ่งการนอนให้สงบสุข สิ่งสำคัญก็คือระดับแสงหน้าจอบนข้อมือนี่ล่ะ นอกจากจอ AMOLED จะสู้แสงได้ดีแล้ว รุ่นนี้ยังสามารถลดแสงลงได้ต่ำมาก ทำให้เวลานอนก็ไม่รบกวนสายตา

ที่ผมใช้เป็นประจำอีกอย่างก็คือนาฬิกาปลุก เนื่องจากการสั่งปลุกบนข้อมือ มันไม่รบกวนคนอื่นในบ้าน …ซึ่งเราจะ snooze กี่รอบก็ได้ ๕๕๕

ด้านการใช้งานทั่วไป อย่างการแจ้งเตือนที่เป็นสิ่งสำคัญมาก ก็ทำได้อย่างครบถ้วน ไม่พลาดการติดต่อ ไม่ต้องหยิบมือถือมาดูบ่อยๆ เช่นกันกับการตอบข้อความด้วย Preset ที่เราตั้งข้อความด่วนไว้ ก็เหมาะกับการใช้งานยามเร่งด่วน เช่น ตอนเดินทางที่ยังไม่สะดวกพิมพ์ตอบ ก็กดตอบด้วยความความด่วนจากข้อมือได้ทันที

บทสรุปรีวิว HUAWEI WATCH FIT Special Edition

ผมมองว่าสมาร์ทวอทช์เป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะการอ่านแจ้งเตือน หรือการควบคุมเพลงโดยไม่ต้องหยิบมือถือ และยังสามารถตรวจจับวัดค่าต่างๆ ให้เรารู้ทันร่างกาย ซึ่งการใช้ HUAWEI WATCH FIT Special Edition ก็มีข้อดีตรง Ecosystem ต่างๆ ที่แข็งแกร่ง หรือถ้าไม่มีอุปกรณ์อื่นของหัวเว่ยเลย ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาครับ