รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ดีแล้ว… ดีอีก

HUAWEI FreeBuds Pro 3 ดูภายนอกคล้ายกับ HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาก แต่ที่จริงแล้วก็มีจุดต่างอยู่พอสมควร ด้วยการยกระดับอัพเกรดส่วนต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น เสียงแน่นขึ้นทั้งเบสทั้งเสียงสูงแหลมมาครบ รองรับ HWA และ Hi-Res Audio พร้อมด้วยไมค์ตัดเสียงรบกวนข้างละ 3 ตัวด้วย ANC 3.0 และสนทนาคมชัดด้วย Pure Voice 2.0 กับราคาเปิดตัว 6,990 บาท

HUAWEI FreeBuds Pro 3

6,990 บาท
รับฟรี กระเป๋าหูฟัง มูลค่า 599 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ถึง 7 มกราคม 2567

ความน่าสนใจของ HUAWEI FreeBuds Pro 3

ด้านคุณภาพเสียง HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาด 11 มม. เพื่อแรงขับเคลื่อนเสียงความถี่ต่ำลงไปที่ 14Hz และให้ความถี่สูงถึง 48kHz ทำให้ได้เสียงเบสที่หนักแน่น และเสียงสูงที่แหลมใส และการรองรับสัญญาณแบบ LDAC และ L2HC กับคุณภาพเสียงระดับ HWA และ Hi-Res Audio ก็ทำให้ได้รายละเอียดของเสียงสูงสุดที่ 990 kbps หรืออธิบายอย่างง่ายว่าคุณภาพดีที่สุดในบรรดาสัญญาณบลูทูธ

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ดีแล้ว... ดีอีก 5

นอกจากนี้ยังมี Adaptive EQ ที่ฉลาดกว่า EQ แบบดั้งเดิม โดยจะคำนวณจาก 3 ปัจจัยคือ

  1. ปรับตามสรีระหูของแต่ละคนที่ต่างกัน
  2. ปรับตามเสียงสภาพแวดล้อม
  3. ปรับตามระดับเสียง

ใช้ระบบตัดเสียงรบกวน Intelligent Dynamic ANC 3.0 ซึ่งในเชิงเทคนิคแล้ว HUAWEI FreeBuds Pro 3 มีไมค์บนหูฟังแต่ละข้างจำนวน 3 ตัว และไมค์แบบ Bone Conduction ( VPU ) อีก 1 ตัว เพื่อประมวลผลร่วมกันให้ได้เสียงที่ดีที่สุด และยังมีโหมด การตัดเสียงรบกวนมีให้เลือก 4 แบบ คือ Dynamic, Cozy, General, Ultra

ด้านการสนทนามีสิ่งที่เรียกว่า Pure Voice 2.0 ที่ใช้ Algorithm ของหัวเว่ยชื่อว่า Deep Neural Network (DNN) ช่วยตัดเสียงรบกวนได้ 5dB

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ดีแล้ว... ดีอีก 7

ด้านการดีไซน์ ถือว่าเป็นเคสชาร์จตัวแรกของวงการที่มีการซ่อนบานพับ ถ้าดูอย่างผิวเผินเหมือนว่าเคสจะเหมือนกับ HUAWEI FreeBuds Pro 2 แต่ถ้าเทียบกันจริงๆ จะพบว่ารุ่นใหม่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย และมีการซ่อนบานพับด้านหลังด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วนอีก 32% และข้อดีอีกอย่างของการซ่อนบานพับ ทำให้การเปิดฝาเคสออกมาจะหยิบหูฟังได้ง่ายขึ้น เนื่องจากตัวฝาส่วนบนจะพับออกมานอกตัวเคส ต่างจากเคสหูฟังทั่วไปที่เปิดแล้วจะซ้อนด้านบนตัวเคสอีกที

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ดีแล้ว... ดีอีก 9

ตัวหูฟังเบากว่ารุ่นเดิม 5% และออกแบบก้านควบคุมใหม่ให้กดได้ง่ายขึ้น จุกหูฟังมีให้เลือกในกล่องถึง 4 ขนาด คือ XS, S, M, L โดยหูฟังเลือกใช้ซิลิโคนเกรดอาหาร ตามมาตรฐาน FDA และ LFGB ทำให้ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง การใช้งานต่อเนื่องสูงสุดยาวนาน 6.5 ชั่วโมง และเมื่อใช้ร่วมกันเคสจะได้นานที่สุด 31 ชั่วโมง

ประสบการณ์ใช้งานจริง

สิ่งแรกที่ผมรู้สึกเอ๊ะเลยก็คือคาแรกเตอร์เสียงของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ต่างจาก HUAWEI FreeBuds Pro 2 ไม่ใช่ว่าดีกว่าหรือแย่กว่า แต่มันเป็นอีกแบบที่ผมก็อธิบายไม่ถูก เหมือนว่ารุ่น 2 จะนุ่มและกังวาลกว่าหน่อยๆ แต่รุ่น 3 จะได้ความคมและแน่นกว่า โดยรวมแล้วผมรู้สึกว่ารุ่นใหม่ให้เสียงที่แน่น และรายละเอียดมาครบกว่า …รุ่น 2 ดีแล้ว เจอรุ่น 3 ปุ๊บเปลี่ยนเลย

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ดีแล้ว... ดีอีก 11

และจุดสังเกตอีกอย่างก็คือ EQ ของรุ่นนี้ไม่ได้พัฒนาร่วมกัน Devialet แล้ว ซึ่งทางหัวเว่ยบอกว่าเราพัฒนาระบบเสียงเองได้ดีในระดับที่พอใจแล้ว ระบบตัดเสียงรบกวนแม้ว่ารุ่น 2 จะมี Dynamic mode เหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน โดยรุ่น 2 จะเป็นการเลือกสลับอัตโนมัติระหว่าง Cozy, General, Ultra แต่รุ่น 3 จะเป็น Dynamic แท้ๆ เลย โดยอิงจากสภาพแวดล้อม สรีระในช่องหู และท่าทางการสวมใส่

ซึ่งการที่ HUAWEI FreeBuds 3 มีการนำช่องหูมาวิเคราะห์เพื่อปรับเสียงให้เหมาะกับแต่ละคน มันเป็นเรื่องที่ดีกับผมมาก เพราะผมเคยผ่าตัดหู ทำให้สภาพในช่องหูของผมไม่เหมือนกับคนทั่วไป การใช้หูฟังรุ่นนี้ทำให้ผมได้ยินเสียงที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ดีแล้ว... ดีอีก 13

ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Dynamic ทำงานได้ดีมาก ผมได้ลองใส่ระหว่างนั่งรถทัวร์ มันช่วยตัดเสียงเครื่องยนต์ออกไปแทบทั้งหมด โดยไม่รู้สึกอึดอัด ผมใส่แบบไม่เปิดเพลงเน้นแค่การตัดเสียงรบกวน ช่วยให้หลับระหว่างเดินทางได้สบายมาก ปัญหาหนึ่งของหูฟังที่มีระบบตัดเสียงบางรุ่น ก็คือการตัดเสียงซะจนอึดอัด ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงพูดตัวเอง แต่นี่ไม่ใช่ปัญหากับ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ครับ

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ดีแล้ว... ดีอีก 15

ด้านการควบคุมผ่านก้านหูฟัง ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากมีการเว้นเว้าที่ก้าน ช่วยให้กะระยะได้ง่ายขึ้น โดยยังคงความครบถ้วนในการควบคุมไว้ทั้งหมด ทั้งการ เล่น/หยุด, รับสาย/วางสาย, เพลงถัดไป, เพลงก่อนหน้า, ปรับโหมดตัดเสียงรบกวน

โหมดคุณภาพเสียงเลือกได้แบบเน้นคุณภาพและเน้นการเชื่อมต่อ ซึ่งการเน้นคุณภาพเหมาะกับการฟังเพลงอย่างเดียว เพราะถ้าเป็นคลิปก็อาจจะเกิดอาการปากไม่ตรงกับเสียงได้ แต่แบบเน้นการเชื่อมต่อก็ให้เสียงที่ดีเหลือเฟือสำหรับการฟังเพลงแอปส่วนใหญ่

จุดเด่นที่หาตัวจับได้ยากคือ HUAWEI FreeBuds Pro 3 รองรับการเชื่อมต่อครั้งละ 2 เครื่อง โดยสามารถเชื่อมต่อเครื่องอื่นๆ ทิ้งไว้ได้มากกว่านั้น และสามารถเลือกสลับได้ง่ายผ่านตัวแอป

บทสรุปรีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3

ที่จริงแล้วเพื่อนนักรีวิวรอบตัวก็ยกให้ HUAWEI FreeBuds 2 เป็นหูฟังบลูทูธที่ดีที่สุดในการใช้งานจริง ทั้งคุณภาพเสียง การควบคุม การตัดเสียงรบกวน การสนทนา และการเชื่อมต่อได้หลายเครื่อง ดังนั้นไม่ต้องคิดมากครับ HUAWEI FreeBuds Pro 3 น่าใช้มาก ถ้างบประมาณอยู่ในช่วง 7,000 บาท ผมแนะนำรุ่นนี้เลย