iPad อาจเป็นโลกในอนาคตที่ Apple วาดฝันไว้หลังจากหมดยุค PC
ท่ามกลางกระแสการถกเถียงถึงอนาคตของโลกยุค Post-PC กับการเปิดตัว iPad รุ่นแรกในปี 2010 จนได้รับความนิยมแบบที่ไม่มี Tablet ค่ายไหนเทียบชั้นได้ ทำให้สิ่งที่เราเห็น ณ ตอนนี้คือ Smartphone era และส่วนของ Tablet ก็มีแค่ iPad แต่นั่นอาจเป็นเพียงเรื่องราวระหว่างทางของเป้าหมายที่ Apple วางไว้สำหรับโลกหลังยุค PC
ย้อนไปเมื่อราว 10 ปีก่อน ผู้คนเริ่มคาดเดาทิศทางอนาคตเมื่อหมดยุคเฟื่องฟูของ PC โดยเริ่มจากการแทรกซึมของ PC Desktop ที่ทุกบ้านต้องมี จนเข้าสู่ช่วงที่ Notebook มีราคาต่ำลงและได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงการมาของ Netbook ที่สร้างกระแสได้ดีในเวลานั้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเริ่มออกมาแสดงความเห็นในยุคถัดไป …บ้างก็ว่า Notebook จะตาย บางคนก็บอกว่า Desktop จะตาย แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ Netbook ตายเพราะการมาของ iPad
หลังจากนั้นตลาด PC ทั้ง Notebook และ Desktop ก็ลดลงทั้งคู่เนื่องจาก Smartphone ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานได้มากกว่า แต่ยังโชคดีที่กระแสหมุนกลับมาเข้าข้าง PC อีกครั้งเมื่อ e-Sports และ Bitcoin ได้รับความนิยม
ในอีกมุมหนึ่ง Apple ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะการจัดวาง Segment ของอุปกรณ์ที่มีราคาสูงขึ้นพร้อมกับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในกรณีของ iMac ก็มีการขยับตัวปล่อย iMac Pro ส่วน MacBook ก็มีการเพิ่มประสิทธิภาพในรุ่น MacBook Pro เพื่อใช้งานแบบหนักหน่วงในขนาดเครื่องที่พกพาได้ ในขณะที่ MacBook ประสิทธิภาพดีพอสำหรับการใช้งานทั่วไป และมีแนวโน้มที่จะดับอนาคตของ MacBook Air ที่มีความก้ำกึ่งไม่สุดสักทาง
ความน่าสนใจอยู่ที่ iPad ที่มีการซอยแบ่งรุ่นออกมาเป็น iPad mini กับราคาและขนาดที่ทำให้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ต่อด้วยการเปิดไลน์ใหม่อย่าง iPad Pro ในปี 2015 พร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 12.9 นิ้วและแป้นพิมพ์กับดินสอ จากนั้นในปี 2017 ก็มีการปล่อย iOS 11 ที่เน้นการเพิ่มความสามารถให้กับ iPad Pro ไม่ว่าจะเป็น Multi-Task, File Manager, Dock และอีกหลายสิ่งที่เสมือนการ Level UP ให้กับ iPad
ถ้าย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน MacBook Air และ MacBook Pro มีความโดดเด่นด้านแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้มากกว่าคู่แข่ง 2-3 เท่า นั่นจึงเป็น Key Success อย่างหนึ่งที่ทำให้ MacBook ประสบความสำเร็จ และ iPad เองก็มีจุดเด่นด้านแบตเตอรี่เช่นกัน เนื่องด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่า Smartphone ทำให้สามารถยัดแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ได้ แต่จุดต่างของทั้งคู่คือ Operating System
ข้อได้เปรียบของ Mobile OS อย่างเช่น Android, iOS เมื่อเทียบกับ Desktop OS อย่าง Windows, macOS, Linux ก็คือความพร้อมใช้แบบที่หยิบออกจากกระเป๋าแล้วกดเปิดหน้าจอใช้งานได้ทันที นั่นยิ่งทำให้ iPad Pro มีความน่าสนใจกว่ากลุ่มของ MacBook และถ้าอ้างอิงพฤติกรรมของผู้ใช้ ไม่มีใครที่อยากแบก Notebook หนักๆ ทุกวันในขณะที่ Tablet มีขนาดเล็ก เบา และแบตเตอรี่อึดกว่า รวมถึงสามารถใส่ซิมเล่นเน็ตได้ในตัวโดยไม่ต้องวุ่นวายหา WiFi หรือปล่อย Hotspot และยังมีกล้องในตัวอีกด้วย
Apple เลือกที่จะนำเสนอ iPad Pro ในลักษณะการทำงานแบบไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่มีการผลิตชิ้นงานอย่างจริงจังแต่แทรกซึมอย่างเป็นมิตรในชีวิตประจำวัน ผ่านตัวละครที่เป็นวัยรุ่นคนทำงาน เพื่อให้เห็นว่า iPad Pro มีดีพอที่จะใช้ทำงานได้จริง
ผ่านไปไม่กี่เดือน Apple ได้ปล่อยโฆษณาอีกชุดภายใต้ชื่อคลิปว่า iPad Pro – What’s a computer ที่นำแสดงด้วยตัวละครที่เป็นเด็ก ให้เห็นว่าเด็กยุคใหม่สามารถใช้ iPad Pro ทำได้ทุกอย่างที่ต้องการในชีวิตประจำวัน ประหนึ่งว่า “Computer คืออะไรไม่รู้จักเรารู้จักแต่ iPad Pro” และถ้าอ่านคำบรรยายคลิปก็ยิ่งเห็นแนวทางที่ชัดเจนกว่าเดิมว่า Apple มองว่านี่คือ Post-PC era
With iPad Pro + iOS 11, a post-PC world may be closer than you think.
และถ้าไล่ดู Playlist ของ Apple ก็จะเห็นการนำเสนอในเชิงสินค้าทดแทน PC อยู่หลายชิ้น เช่น Better Than a Computer, No More Printing, No PC Viruses, All Day Battery, All Your School Stuff, A Whole New Kind Of Computer ซึ่งทิศทางทั้งหมดเป็นการพูดถึงการแทนที่ PC ด้วย iPad
เมื่อวิเคราะห์ถึงแนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคตและพฤติกรรมของผู้ใช้ มันก็น่าจะเป็นไปได้ที่ iPad Pro จะเข้ามาแทนที่ PC คล้ายกับที่ Smartphone เคยทำอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ความต่างก็คือ iPad Pro มีความคล้าย PC มากกว่าที่ Smartphone ให้กับเรา โดยเฉพาะหน้าจอที่ใหญ่พอสำหรับการทำงานแต่เล็กพอที่จะพกพา และมีแป้นพิมพ์แบบ Full Size กับการจัดวางรูปแบบมาตรฐาน QWERTY ที่เราเคยชินจาก PC รวมถึง Software ที่เอื้ออำนวยมากกว่า ในระดับที่งานบางอย่างทำบน iPad Pro ง่ายกว่าทำบน MacBook Pro
จึงมีความเป็นไปได้ที่ iPad Pro จะเข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตคนทั่วไปมากขึ้น แล้วปล่อยให้ MacBook Pro เป็นอุปกรณ์สำหรับสายงานที่ต้องการความจริงจัง ส่วน iMac หรือ Desktop ก็อาจโดนผลกระทบถ้า iPad Pro พัฒนาถึงขั้นที่ทดแทนงานทั่วไปได้ทั้งหมด
เมื่อดูจากปัจจัยแวดล้อมประกอบกับการนำเสนอในโฆษณาและชื่อคลิป จึงเป็นไปได้ว่า Apple วางแผนให้ iPad Pro เป็นอนาคตของโลกนี้ ไม่ใช่แค่ทำมาครองส่วนแบ่งแล้วจากไปเหมือนค่ายอื่น แต่ทั้งหมดนี้คิดไว้ตั้งแต่ก่อนจะเปิดตัว iPad เมื่อปี 2010 ซะอีก และความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ Apple เป็นบริษัทที่ทรงอิทธิพลระดับโลก เมื่อตัดสินใจทำอะไรมักเกิดการคล้อยตาม ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ก็คือ Adobe Flash ที่เค้าใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง พอ Apple ประกาศว่าจะเลิกใช้มันก็ตายไปจากโลก แล้วลองคิดดูว่าถ้าวันหนึ่งที่ Apple มองว่า iPad พร้อมแล้วที่จะแทนที่ PC มันก็เป็นไปได้ที่มันจะเข้าสู่ยุค Post-PC อย่างแท้จริง