รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 3

ถ้าบอกว่า iPad Pro คือที่สุดของฝั่ง iOS ก็ต้องบอกว่า Samsung Galaxy Tab S3 คือที่สุดของฝั่ง Android เช่นกัน ด้วยการจัดเต็มสเป็กและเคสแป้นพิมพ์ โดยไม่ลืม S-Pen อันเป็นจุดเด่นของค่าย จึงเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของความเป็นที่สุดในด้านนี้

ช่วงปี 2015-2016 จะเห็นว่า Android Tablet หายไปจากตลาดเนื่องจากยอดขายไม่ดีนัก หรือพูดง่ายๆ ก็คือถ้าดูฝั่ง Mobile อาจมีตัวเลือกหลายรุ่นที่คนสนใจ แต่พอเป็น Tablet แล้วคนส่วนใหญ่เทใจให้กับ iPad ซะมากกว่า ส่วนนึงก็เป็นเพราะทาง Google เองก็ไม่ได้จริงจังกับ Tablet ด้วยนั่นล่ะ

Android Tablet ที่ผมประทับใจเป็นพิเศษก็คือ Galaxy Note 8.0 และก็น่าเสียดายที่ไม่สานต่อ และแม้ว่าชื่อคำว่า Note บน Tablet จะหายไป แต่กลับมีรุ่นที่ใช้ S-Pen ออกมาให้เห็นอย่าง Galaxy Tab A with S-Pen ซึ่งก็ไม่ได้จัดเต็ม เนื่องด้วยเหตุผลด้านความต้องการของตลาด แต่แล้ว Samsung ที่เคยเป็นเจ้าตลาดด้านนี้ก็ไม่อาจปล่อยให้ Apple กัดกินเค๊กชิ้นนี้เพียงคนเดียว เลยระเบิดพลังออกมาเป็น Galaxy Tab S3 ที่ครบทุกสิ่งที่พึงมี

สเป็กของ Samsung Galaxy Tab S3

  • ซีพียู: Snapdragon 820
  • แรม: 4 GB
  • พื้นที่: 32 GB support microSD
  • หน้าจอ: 9.7 นิ้ว sAMOLED HDR QHD
  • กล้องหลัง: 13 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล
  • ระบบเสียง: ลำโพง 4 ตัวปรับแต่งโดย AKG
  • น้ำหนัก: 434 กรัม
  • ราคา: 24,500 บาท

ทรวดทรงมิติ dimension มีความคล้ายคลึงกับ iPad Pro 9.7 นิ้ว แต่การเลือกใช้หน้าจอแบบ sAMOLED HDR ทำให้แสดงผลสีสันได้น่าสนใจกว่า โดยเฉพาะสีดำที่แสงผลได้มืดสนิท และการเป็น HDR ก็รองรับ content ใหม่ๆ ที่เริ่มมีแบบ HDR มากขึ้น ซึ่งมีสีสันที่สวยกว่าจอแบบทั่วไป

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 5

เรื่องของ UI/UX ทำได้ผิดคาดมากๆ เพราะถ้าย้อนไปเมื่อราว 2-3 ปีก่อนจะพบว่า layout ของ Android Tablet แย่มากๆ เนื่องด้วยแอพส่วนมากไม่ได้ออกแบบมาสำหรับหน้าจอใหญ่ๆ ต่างจาก iPad ที่มีการออกแบบแอพมาโดยเฉพาะ แต่การได้จับ Galaxy Tab S3 ครั้งนี้ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป เพราะมีการปรับปรุง UI/UX ดีกว่าเดิมพอสมควร ซึ่งเป็นอานิสงค์จากการที่แอพต่างๆ ใน Play Store เริ่มคำนึงถึงการใช้งานบนหน้าจอใหญ่ๆ มากขึ้น ในด้าน System UI อย่างพวกแถบแจ้งเตือนก็คล้ายกับบนมือถือ ทำให้ง่ายต่อการปรับตัว

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 7

จุดขายอีกอย่างที่เรียกว่าต้นตำรับเจ้าแรกก็คือระบบ Multi Window ที่พัฒนาออกมาจนกระทั่ง Google เองก็จับเอาแนวคิดนี้ไปยัดใส่ใน Android เดิมๆ ทำให้ตอนนี้ Android รุ่นใหม่ๆ สามารถแบ่ง 2 หน้าจอแบบ Split ได้ แต่ก็ยังไม่มีใครทำแบบ Hover app ได้เหมือนกับ Samsung

การทำ Multi Window แบบ Hover app ทำให้เราสามารถเปิดแอพลอยเหนือหน้าต่างอื่น โดยที่สามารถเปิดได้หลายหน้าต่างและยังสามารถย่อลงเป็น Bubble เล็กๆ ช่วยให้สลับเปิดแต่ละแอพได้ง่าย ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าสะดวกกว่า iPad Pro อยู่เยอะเลย

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 9

เรื่องของ Virtual Keyboard หรือแป้นพิมพ์ ผมยกให้ Samsung ทำได้ดีที่สุดบน Android มานานมาก เนื่องด้วยการวาง Layout ที่เข้าใจง่ายได้ รองรับ Emoticon สามารถตั้งค่าเป็น Swipe ได้และยังมีระบบเดาคำที่ค่อนข้างฉลาดอีกด้วย ปุ่ม Ctrl ที่ให้มาก็ช่วยให้การใช้งานคล้ายกับบน PC ที่สามารถกด Ctrl+C, Ctrl+V หรือคำสั่งอื่นๆ ได้สะดวก

นอกจากนี้ยังรองรับทั้ง Voice Input และ Handwriting อีกด้วย ซึ่ง Voice Input ก็คือระบบ Dictation แบบพูดเพื่อพิมพ์โดยใช้ระบบของ Google ที่จัดว่าเก่งและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่จากการลองใช้จริงผมรู้สึกว่าในแง่ Dictation ยังเป็นรอง Siri อยู่พอตัว แต่เรื่องที่ต้องชมก็คือระบบ Handwriting พัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก ขนาดเขียนด้วยปลายนิ้วแบบไก่เขี่ยก็ยังแปลงเป็นตัวอักษรภาษาไทยได้ค่อนข้างแม่นยำ

แม้ว่าส่วนตัวผมจะเลือกใช้แป้นพิมพ์ Swype บน Android ทุกเครื่อง ( ช่วงหลังหันมาใช้ Gboard ของ Google ) แต่สำหรับการใช้ Samsung ผมยอมศิโรราบให้กับแป้นพิมพ์เดิมๆ ของค่ายนี้เลย

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 11

คะแนนที่ผมเทใจให้กับแป้นพิมพ์แบบ Virtual Keyboard ช่างแตกต่างจาก Case Keyboard ที่ผมได้มาทดสอบ แต่ต้องย้ำกันว่า Keyboard ที่ผมได้มาลองครั้งนี้เป็นของแท้จาก Samsung ก็จริงแต่ไม่ใช่ตัวที่วางขายในไทยนะครับ โดยจุดต่างหลักก็คือรุ่นที่วางขายในไทยจะมีช่องด้านข้างไว้เสียบ S-Pen

ด้านการประกอบร่างเข้ากับ Galaxy Tab S3 ใช้แนวคิดคล้ายกับ iPad Pro คือมีการดูดเข้าไปประกบติดตัวเครื่องโดยไม่ต้องมีการเชื่อมต่อใดๆ ให้วุ่นวาย

เมื่อเทียบกับ Smart Keyboard ของ iPad Pro จะเห็นว่าเมื่อมองที่ภายนอกดูเหมือนของ Samsung จะสวยเรียบเนียนกว่า แต่ในแง่การใช้งานจริงพบว่ารูปแบบของ iPad Pro ถือได้สะดวกกว่า เนื่องจากการใช้งานแบบเปิดฝาเคสมาด้านหลัง แป้นพิมพ์ของ Samsung จะไม่มีสิ่งใดปกคลุมทำให้มือของเราจะไปสัมผัสกับปุ่มโดยตรง ซึ่งไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเท่าไร นอกจากนี้ตัวเคสยังปิดบังกล้องหลังไว้ด้วย จึงไม่สามารถถ่ายรูปได้เมื่อใส่เคสตัวนี้

อย่างไรก็ตาม Case Keyboard ตัวนี้ก็มีข้อดีตรงที่แป้นพิมพ์มีกลไกคล้ายกับบน Notebook ทำให้การพิมพ์และความรู้สึกในการกดเป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคย ( เว้นแต่จะชินกับพวกแป้นตื้นอย่างสินค้าของ Apple ยุคหลัง )

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 13

ถึงกระนั้นแป้นพิมพ์นี้ก็ยังมีข้อเสียแบบน่าขัดใจ เนื่องจาก Samsung เน้นด้านความแข็งแรงเลยใช้วัสดุที่ค่อนข้างแข็งและเสริมขอบรอบด้าน แต่นั่นก็ทำให้มันกินพื้นที่ของแป้นพิมพ์ ส่งผลให้กลายเป็น Layout ที่ไม่มาตรฐาน บางปุ่มมีขนาดเล็กกว่าปรกติ บางปุ่มก็ถูกย้ายตำแหน่ง ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับคนที่พิมพ์สัมผัส …ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวสักพักล่ะนะ

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 15

ขึ้นชื่อลือชากันมายาวนานสำหรับปากกา S-Pen ที่ทำเอาการเปิดตัวของ Apple Pencil กลายเป็นเรื่องตลกในสายตาหลายคน โดยเฉพาะเรื่องของความสะดวกในการใช้งานที่ S-Pen มีขนาดเล็กพกพาง่ายและไม่ต้องชาร์จ

S-Pen ถูกพัฒนาขึ้นจากเดิมด้วยหัวปากกาขนาด 0.7 มม. และการตรวจจับน้ำหนักการกด 4,096 ระดับ ซึ่งดีกว่า Galaxy Note 5 ที่มีทำได้เพียง 2,048 ระดับเท่านั้น ความสะดวกของ S-Pen ไม่ใช่แค่เรื่องปากกา แต่มันเป็นเรื่องของ Software ที่เอื้ออำนวยต่อการจดบันทึก อย่างการหยิบ S-Pen มาชี้ลอยเหนือหน้าจอก็จะมีเมนูออกมาให้ใช้งาน และส่วนที่ผมชอบเป็นพิเศษก็คือ Smart select, Translate, Screen write

  • Smart select ช่วยให้เราจับภาพหน้าจอในส่วนที่ต้องการได้ง่าย และยังสามารถทำเป็นไฟล์ GIF ได้อีกด้วย
  • Translate กับการแปลคำง่ายๆ เพียงแค่เอา S-Pen ไปชี้คำที่ต้องการ โดยใช้ฐานข้อมูลจาก Google Translate
  • Screen write แท้จริงก็คือการแคปแล้วเขียน เพียงแต่มันทำให้ใช้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

จุดเด่นอีกอย่างที่ไม่พูดไม่ได้ก็คือ Screen off memo ที่สามารถจดบันทึกได้แม้ปิดหน้าจอ ซึ่งมันเหมาะกับการใช้งานจริงในแบบที่ต้องจดบันทึกด่วนๆ ก็แค่หยิบ S-Pen ขึ้นมากดปุ่มแล้วเตรียมเขียนได้เลย

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 17

นอกจากนี้ข้อมูลการจด Note ต่างๆ ยังถูกเก็บไว้บน Samsung Cloud ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับ Device อื่นๆ ได้ด้วย ส่วนตัวแล้วผมเน้นการจดบันทึกและทำ Annotation มากกว่าจะใช้ในเชิง Drawing ก็รู้สึกว่ามันตอบโจทย์การใช้งาน แต่ถ้าเป็นคนที่ใช้ Drawing บางคนก็อาจจะบ่นเรื่องการทำแรเงาที่ S-Pen ทำไม่ได้สักทีในขณะที่ Apple Pencil สามารถทำได้ด้วยการเอียงด้ามปากกา

ความดีงามอีกอย่างก็คือการใช้งานในแบบ Professional หรืองานเอกสารจำพวก Microsoft Office ที่รองรับการใช้งานร่วมกับ S-Pen ด้วย และจุดแข็งนึงที่ Android ยังเหนือกว่า iOS ก็คือระบบการจัดการไฟล์ที่เปิดกว้าง ทำให้เราสามารถถ่ายโอนไฟล์หรือแม้แต่เสียบ Flash Drive ก็สะดวกกว่า และที่เด็ดกว่าคู่แข่งคือสามารถใช้งานด้านโทรศัพท์ได้ด้วย… แต่แนะนำว่าต่อหูฟังบลูทูธจะเหมาะกว่า

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 19

ระบบเสียงกับลำโพง 4 ตัวที่ปรับแต่งโดย AKG ก็จัดว่าเสียงดีในแบบที่ฟังแล้วไม่ขัดใจสำหรับความเป็นลำโพง Tablet และยังเร่งเสียงได้ค่อนข้างดังอีกด้วย ส่วน Galaxy Gift นี่ก็จัดว่าเป็นแม่เหล็กดูดลูกค้าที่ดีมากๆ เพราะมีสิทธิพิเศษและของฟรีหมุนเวียนมาแจกให้ลูกค้า Samsung กันอย่างไม่ขาดสาย

รีวิว Samsung Galaxy Tab S3 ที่สุดของ Android Tablet 21

เนื่องด้วยความต้องการแบบ All in One ทำให้ Tablet ยุคนี้ต้องมีกล้องที่คุณภาพดีด้วย และ Galaxy Tab S3 ก็มีกล้องที่จัดว่าดีสำหรับความเป็น Tablet ที่ถ่ายได้เร็ว คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีและมีโหมดใช้งานที่แทบไม่ต่างจากฝั่งมือถือทั้ง Auto, Pro, Panorama, Hyperlapse, Continuous Shot, HDR, Food, Virtual shot, Dual Camera, Animated GIF, Sports shot, Rear-cam selfie

ถ้ามองในแง่คุณภาพกล้องหลังก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับ Tablet ส่วนกล้องหน้าก็น่าจะดีกว่านี้อีกนิด

บทสรุป

ไม่ต้องพูดอะไรมากนักเอาเป็นว่า ถ้ามองหา Android Tablet ที่ครบเครื่องจัดเต็มก็กำเงินเดินไปซื้อ Samsung Galaxy Tab S3 ได้เลย เพราะตอนนี้ดูแล้วมีแค่ Galaxy Tab S3 กับ iPad Pro นี่แหละที่สูสีกันหน่อย …ก็อยู่ที่สไตล์การใช้งานแล้วล่ะว่าจะเลือกค่ายไหน