AK Club Meeting ครั้งที่ 3 กับร้าน Munkong Gadget

AK Club Meeting ครั้งที่ 3 กับร้าน Munkong Gadget 3

ได้ยินชื่อร้าน Munkong Gadget มานาน เคยไปงานเปิดตัวสินค้าแล้วก็เจอเฮียมั่นกับพี่เบียสก็บ่อย แต่ไม่เคยได้คุยกันจริงจัง จนกระทั่งพี่เบียสเดินมาชวนไปงาน AK Club Meeting ด้วยสไตล์ Gangster แบบมั่นคง “พรุ่งนี้ไปป่าวๆ …มาเลยพรุ่งนี้ เอานามบัตรมาหน่อย อ่อแบคไอเดีย …พรุ่งนี้นะมาด้วย” โดยไม่บอก Agenda อะไรทั้งสิ้น

AK Club Meeting ครั้งที่ 3 กับร้าน Munkong Gadget 5

ผมไปถึงงานคนแรก ( อีกแล้ว ) และก็พบว่างานแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือรอบสื่อที่เชิญผู้บริหาร AK มาบอกเล่าเรื่องราว และรอบเย็นที่เป็นเพื่อนพ้องและลูกค้า

AK ที่เรียกกันง่ายๆ ที่จริงมีชื่อเต็มว่า Astell&Kern เป็น DAP ( Digital Audio Player ) ที่อาจเรียกได้ว่า The Best ก็ว่าได้โดยพระเอกของงานครั้งนี้คือ AK Kann ราคา 39,500 บาท และถ้ายังไม่รู้จักก็คงต้องย้อนอดีตกันว่า AK ที่จริงก็คือแบรนด์ iRiver ที่โด่งดังในยุค MP3 Player รุ่งเรือง จนกระทั่ง Samsung มาขอซื้อบริษัท แต่บริษัทไม่ยอมขายจนทำให้ Samsung หันไปสนับสนุน iPod ด้วยการขาย Harddisk ให้ iPod แต่ไม่ขายให้ iRiver

พอเข้าสู่ยุคของ Smartphone ก็กลายเป็นยุคตกต่ำของ iRiver เพราะมือถือเครื่องเดียวทำได้ทุกอย่างแล้ว จนทำให้ต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยการหันไปทำอุปกรณ์เสริมขายแทน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนทำให้บริษัทต้องกลับมาทบทวนหาแนวทางตัวเองอีกครั้ง

จากที่เคยสร้าง MP3 Player เครื่องแรกของโลกจนรุ่งเรือง แต่ในความรุ่งเรืองนั้นเองกลับทำให้ผู้บริหารรู้สึกผิดเพราะ MP3 มันคือการลดคุณภาพของเสียงลงมาจากความเป็น Analog อย่างพวกแผ่น CD หรือม้วนเทป เพื่อให้เก็บเพลงได้เยอะ แต่คนกลับเลือกฟังเพลงน้อยลง ไม่ได้ฟังแล้วฟังเล่าแบบยุคสมัยก่อน เค้าเลยอยากจะขอโทษด้วยการสร้างโปรเจ็คลับที่มี codename ว่า “Tear Drop” แบบที่ฟังแล้วซาบซึ้งน้ำตาไหล

AK Club Meeting ครั้งที่ 3 กับร้าน Munkong Gadget 7

แต่เพราะ iRiver เป็นบริษัทด้าน Technology ไม่ใช่บริษัทด้าน Audio เลยต้องจ้างบริษัทอื่นมาเป็นที่ปรึกษาอีกที จนออกมาเป็น Astell&Kern ที่มาจากภาษากรีกและเยอรมัน ที่แปลว่า “ดวงดาว” และ “ศูนย์กลาง” อันหมายความว่า “ศูนย์กลางของจักรวาล” นั่นเอง

AK รุ่นแรกไม่ได้คาดหวังยอดขายมากนักเพราะสภาวะแวดล้อมตอนนั้นไม่เอื้ออำนวย ด้วยราคาขายที่ค่อนข้างสูงจึงจัดว่าเป็นตลาดที่เล็กมาจนทำให้ทาง AK มองว่าการขายได้ 500 เครื่องก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว แต่ผลคือการขายครั้งแรกภายใต้แบรนด์ AK กับ AK100 ทำยอดขายได้มากกว่า 3,000 เครื่องในเดือนแรก ซึ่งเป็นจำนวนที่คาดการณ์ไว้ว่าเป็นยอดขายของทั้งปี และเดือนที่สองก็ขายได้มากกว่า 10,000 เครื่อง

ต่อมาเลยลองอีกครั้งด้วย AK120 ว่าถ้าขายได้เกิน 50 เครื่องก็ถือว่าประสบความสำเร็จเพราะราคาสูงกว่า AK100 ถึงเท่าตัว แต่ผลคือยอดขายสูงกว่าเดิม 10 เท่า จนทำให้เห็นว่าตรงนี้มีตลาดรออยู่เลยพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเครื่องเล่นเพลงพกพาที่คุณภาพดีที่สุดในโลก

AK Club Meeting ครั้งที่ 3 กับร้าน Munkong Gadget 9

หลังจากจบช่วงสาระก็เข้าสู่ช่วงที่ผมขอเรียกว่า “ดิบและฮา” เพราะเป็นช่วงที่เฮียมั่นและพี่เบียสจับไมค์ รายล้อมไปด้วยลูกค้าและผองเพื่อน ซึ่งเฮียมั่นก็คือเฮียมั่นที่ดิบๆ หยาบๆ แต่ฮา

AK Club Meeting ครั้งที่ 3 กับร้าน Munkong Gadget 11

รางวัลใหญ่ในงานคือ JH Roxanne หูฟังราคา 75,000 บาท และกิจกรรมก็ดีตรงที่ทุกคนมีส่วนร่วมด้วยการ “เป่า ยิ้ง ฉุบ” ซึ่งคนที่ได้ไปนี่ก็ทำเอาหลายๆ คนอิจฉาเลยทีเดียว …สุดท้ายก็ต้องขอบคุณ Munkong Gadget และ AK ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ด้วยล่ะ