พอย้ายฐานจาก MacBook กลับมาใช้ Acer Aspire V Nitro Black Edition ผมก็จับยำลง macOS ทีนี้เริ่มอยากหาแป้นพิมพ์ที่มันรองรับหลายระบบ จนเจอ Logitech K375s ที่มี layout รองรับทั้ง Windows, macOS, iOS, Android และเชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์
ถ้านับดูแล้ว ในช่วงปีที่ผ่านมาก็มีแป้นพิมพ์ลักษณะนี้ออกมา 3 รุ่น และทั้ง 3 รุ่นที่ว่าก็มีจุดเด่นและลักษณะการใช้งานที่ต่างกัน อย่าง Logitech K480 มีขนาดค่อนข้างเทอะทะ น้ำหนักเยอะ ไม่เหมาะแก่การพกพาแต่ดีตรงสามารถตั้งมือถือได้ แล้วก็ใช้วิธีสลับระหว่างอุปกรณ์ด้วยการหมุนปุ่มที่แยกต่างหาก ราคาหน้าเว็บก็อยู่ที่ 1,499 บาท
ส่วน Logitech K380 มีน้ำหนักและขนาดที่ง่ายต่อการพกพามากขึ้น แล้วก็หันมาใช้การสลับระหว่างอุปกรณ์ด้วยการกดปุ่มบนแป้นพิมพ์ ไม่ได้มีปุ่มแยกแบบ Logitech K480 และก็ไม่มีแท่นสำหรับตั้งมือถือ ส่วนค่าตัวก็ลดลงมาอยู่ที่ 1,299 บาท
แต่ Logitech 375s ที่เราจะพูดถึงในครั้งนี้มีลักษณะที่ต่างจาก 2 ตัวบนอย่างสิ้นเชิง ด้วยรูปร่างหน้าตาที่เหมาะจะใช้แบบ Full Desktop มากกว่า แต่ก็ไม่ลืมที่จะมีแท่นตั้งมือถือ และราคาก็ถูกกว่าซะด้วย
แม้ว่าราคาอย่างเป็นทางการของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 1,099 บาท แต่ผมก็ซื้อมาในราคา 990 บาทเท่านั้นล่ะ …ที่เด็ดก็คือรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อผ่าน bluetooth และ Unifying ด้วย!!! ซึ่งสองรุ่นก่อนหน้า รองรับแค่ bluetooth อย่างเดียวเท่านั้น
สำหรับมือใหม่ Logitech ก็ต้องอธิบายเพิ่มนิดนึงสำหรับ Unifying ซึ่งที่จริงมันก็คือการเชื่อมต่อแบบไร้สายสำหรับอุปกรณ์ของค่ายนี้ และไม่ได้มีในทุกรุ่นด้วย ข้อดีก็คือมันทำให้เราสามารถเอาไปใช้กับคอมที่ไม่มี bluetooth และก็รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ของ Logitech ถึง 6 ชิ้น
ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าในกล่องแถมถ่านมาให้ด้วย ก็เลยออกไปซื้อถ่านที่ 7-11 และก็ลืมดูว่ามันใช้ถ่านขนาดไหนก็เลยซื้อ AA และ AAA มา …สรุป พอแกะกล่องดูมีถ่าน Duracell ขนาด AAA มาให้เรียบร้อยพร้อมใช้ -_-
ความต่างอย่างนึงของสินค้าใส่ถ่านของแบรนด์ใหญ่กับแบรนด์กิ๊กก๊อก ก็คือการบริหารพลังงานที่แบรนด์ใหญ่ทำได้ดีกว่า
ความธรรมดาที่พิเศษก็คือมันเป็นแป้นพิมพ์แบบ Full Layout เหมือนบน PC เป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็น Arrow Key, NumPad และ Function แม้แต่ปุ่มที่ไม่ค่อยใช้อย่าง Insert, Home, Page up, Page Down, Delete, End ก็มาครบ และมันก็ยังเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ตามอุปกรณ์ที่ใช้ด้วย อย่างปุ่ม Alt ที่จะกลายเป็น Command แทนเมื่อใช้ร่วมกับ macOS และ iOS …จะขาดหายก็แค่ปุ่ม Start ฝั่งขวานั่นล่ะ
ด้านล่างก็มีขาตั้งให้กางออกมาปรับระดับความเอียงให้เหมาะสม ส่วนสัมผัสการกดก็ไม่ตื้นเหมือนโน๊ตบุ๊คแต่ไม่สูงเหมือนบนคอมทั่วไป …การเชื่อมต่อก็ไม่ยากอะไร เพียงแค่กดปุ่มตำแหน่ง F1, F2, F3 เพื่อเชื่อมต่อหรือสลับระหว่างอุปกรณ์
ความดีงามก็คือมันสามารถสลับระหว่างอุปกรณ์ได้ลื่นไหลต่อเนื่องมากๆ แบบกดสลับปุ๊บก็พร้อมพิมพ์เลย ไม่ต้องรอหลายๆ วินาที …ในกรณีที่ใช้ร่วมกับ Desktop OS อย่าง Windows หรือ macOS ก็สามารถโหลดแอพมาปรับแต่ง Logitech K375s ได้ด้วย
เราสามารถเปลี่ยนบทบาทของปุ่มที่ถูก Highlight ด้วยสีเขียวให้ทำหน้าที่อื่นแทน อย่างเช่น Launch Application, Advance Click, Action Center, Copy, Paste, Back, Forward, Search, Zoom In/Out และอีกสารพัด หรือแม้แต่จะตั้งค่าเป็น Keystroke ก็ยังได้ ( กดปุ่มเดียว แทนคำสั่งการกดหลายปุ่ม )
บทสรุป
ในความเป็น Wireless Keyboard ก็ถือว่า Logitech K375s คุ้มค่ามากๆ ราคาเกาะ 1,000 บาท แต่พร้อมใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ ไม่เหมือนแป้นพิมพ์ทั่วไปที่มักมีปัญหาเพราะฝั่ง Apple มีการจัดตำแหน่งแถวๆ Fn, Ctrl, Alt ต่างจากค่ายอื่นๆ แถมยังมาแบบ Full Layout แบบที่ถ้ามี Windows, macOS ตั้งอยู่คู่กันก็ใช้งานได้สะดวกเลยล่ะ …หลังจากเสียเงินไปเรียบร้อยก็คิดว่ามันมีดีพอที่จะบอกต่อ ยิ่งใช้คู่กับ Logitech MX Anywhere 2 นี่มันยิ่งใช่
