รีวิว Vivo V17 | จอสวยสะดุดตา กล้องหน้าเซลฟี่สุดปัง ถ่ายรูปสุดอลังด้วยกล้องหลัง 4 ตัว แสงน้อยไม่กลัวเพราะมี Super Night Mode
หลังจากที่เปิดตัว Vivo V17 Pro สมาร์ทโฟนขวัญใจสายเซลฟี่ที่มาพร้อมกล้องหน้าหลังรวมกัน 6 ตัวและทางเราได้รีวิวกันไปแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ก็มาถึงคิวของรุ่นน้องอย่าง Vivo V17 กันบ้าง แต่ถึงจะไม่มีคำว่า Pro ห้อยท้ายก็อย่าพึ่งคิดว่าจะไม่น่าสนใจ เพราะสเปคที่ให้มานั้นดีไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง Vivo V17 Pro เลย
Unbox
สำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อมกับกล่องสีขาวที่ดีไซน์แบบเรียบง่าย ลวดลายเป็นกราฟิกขอบของตัวเครื่องแต่จะเน้นรายละเอียดตรงส่วนของกล้องเพื่อตอกย้ำว่ารุ่นนี้เน้นการถ่ายภาพตามสโลแกน “ฉีกทุกกฎในทุกช็อต” ภายในกล่องนั้นก็จะประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง Vivo V17 ที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว
- หูฟัง
- คู่มือการใช้งาน
- สาย USB Type-C
- หัวชาร์จแบตเตอรี่
- เข็มจิ้มซิม
- เคสโทรศัพท์
เล่นเฉดสีอย่างมีเสน่ห์ ดีไซน์สวยเก๋อย่างมีสไตล์
Vivo V17 มีดีไซน์ที่แตกต่างจากรุ่น Pro อย่างชัดเจน
ตำแหน่งกล้องหลังของ Vivo V17 จะอยู่ใกล้กับมุมของเครื่อง และเรียงตำแหน่งเป็นรูปตัว L
พอร์ตชาร์จเป็นแบบ USB-Type C และรูหูฟังก็ยังคงอยู่
Vivo V17 มีด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ Crystal White กับ Admiral Blue ซึ่งเครื่องที่ได้มารีวิวในวันนี้ก็คือสี Admiral Blue นั่นเอง
เมื่อฝาหลังของเครื่องสะท้อนกับแสงจะเล่นเฉดสีที่ดูสวยมากเลยทีเดียว
จะถือมุมไหนก็ดูดี
ถ่ายเซลฟี่ก็ดูสวย
หน้าจอวางตำแหน่งกล้องได้ดี แสดงสีสวยด้วย Super AMOLED Ultra O Screen
Vivo V17 มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED Ultra O Screen ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 20:9
จอ Super AMOLED Ultra O Screen นอกจากจะมีสีสันที่สวยงาม มีขอบเขตสี DCI-P3 100% แล้ว ยังมีจุดเด่นคือกล้องหน้าถูกซ่อนไว้ในหน้าจอบริเวณมุมขวาบนระดับเดียวกับ Status Bar และมีขนาดที่เล็กมาก ๆ ทำให้ไม่รบกวนการใช้งานจนรู้สึกเกะกะแต่อย่างใด
ลองเปลี่ยนวอลเปเปอร์เพื่อซ่อนกล้องหน้าให้แนบเนียนสักหน่อย
สำหรับสีของหน้าจอนั้นมีให้เลือกปรับได้ 3 แบบ คือ โหมดมาตรฐาน โหมดปกติ และ โหมดสว่าง ซึ่งถ้าเรียงตามความสดใสของสีจากน้อยไปมากก็จะเป็น โหมดปกติ โหมดมาตรฐาน และ โหมดสว่าง
หน้าจอของ Vivo V17 มาพร้อมกับความสามารถในการสแกนนิ้วในหน้าจอ
สามารถสแกนได้อย่างแม่นยำและปลดล็อคได้รวดเร็ว แถมยังเปลี่ยนเอฟเฟกต์ได้อีกหลายแบบด้วย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ โหมดมืด ที่จะเปลี่ยนธีมของเครื่องให้เป็นสีดำ มีข้อดีคือช่วยถนอมสายตาและประหยัดพลังงาน
และความเจ๋งของโหมดมืดที่อยู่ใน Funtouch OS คือสามารถบังคับแอปที่ไม่ยอมทำ Dark Theme อย่าง Facebook ให้แสดงผลในธีมสีดำได้อีกด้วย (สาแก่ใจคนเขียนยิ่งนัก)
ใช้งานได้อย่างลื่นไหล หลากหลายฟีเจอร์ด้วย Funtouch OS 9.2
Funtouch OS ไม่ได้มีดีแค่โหมดมืดเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อีกมากมาย โดยพื้นฐานของ Funtouch OS 9.2 นั้นคือ Android 9 Pie นั่นเอง
หน้าตาของหน้าจอหลัก
สำหรับเมนูลัดต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้โดยเลื่อนนิ้วบริเวณขอบจอด้านซ้ายล่างขึ้นมา สามารถใช้งานมือเดียวได้ง่ายขึ้น
มีแอป i Manager ที่เปรียบเสมือนเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยให้ใช้งานเครื่องได้อย่างสะดวกขึ้น
ความสามารถของแอป i Manager นั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องให้ทำงานได้เร็วขึ้น
- ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกเพื่อเพิ่มที่ว่างให้กับเครื่อง
- เครื่องมือสำหรับสแกนไวรัส
- ตรวจสอบการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายมือถือ
- จัดการแอปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัปเดตหรือสิทธิ์การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ของเครื่อง
- บล็อกการโทรเข้าและข้อความจากสายที่ไม่พึงประสงค์
- การล็อคแอป
- การสำรองข้อมูล
- ดูเวลาที่ใช้งานมือถือในแต่ละวัน
- โหมดประหยัดแบตเตอรี่
- การระบายความร้อนของเครื่อง
- โหมดเล่นเกม
- พื้นที่ลับสำหรับเก็บไฟล์ที่ไม่อยากให้ใครเห็น
- เครื่องมือสำหรับลบไฟล์ขยะ
- โคลนแอปโซเชียลต่าง ๆ
ประสิทธิภาพดี สูสีกับรุ่นราคาแพง
Vivo V17 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 675 AIE Ram 8 GB และ พื้นที่ในตัวเครื่อง 256 GB เรียกได้ว่าสเปคจัดหนักจัดเต็มสำหรับสมาร์ทโฟนราคา 11,999 บาท
ว่าแล้วก็ต้องลองเล่น PUBG Mobile ตามธรรมเนียมการทดสอบมือถือของเว็บไซต์ Bacidea
เมื่อกดเข้าเกมก็พบว่าตัวเครื่องตั้งค่ากราฟิกให้สูงสุดแบบอัตโนมัติเลย โดยปรับสุดทุกอย่างเท่าที่เกมอนุญาตให้เครื่องปรับ ยกเว้นปรับความละเอียดภาพที่จะถูกปิดไว้ จากการที่ลองเปิดฟังก์ชันปรับความละเอียดภาพพบว่าเกมหน่วงลงแบบเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพอเล่นต่อไปได้เรื่อย ๆ ซึ่งถ้าให้แนะนำคือไม่ต้องไปเปิดเจ้าตัวนี้ เพราะลำพังที่เครื่องเซ็ตมาให้ก็ถือว่าสวยและเล่นได้แบบลื่น ๆ แล้ว
เล่นจนจบเกมก็พบว่าใช้แบตไปเพียง 7-8% เท่านั้นสำหรับ 1 เกม
และยังมี Ultra Game Mode ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม คอยจัดการไม่ให้มีการแจ้งเตือนเข้ามารบกวนและจัดการการทำงานของแอปเบื้องหลัง แต่ที่พิเศษไปว่านั้นคือยังควบคุมอุณหภูมิของเครื่องไม่ให้ร้อนจนเกินไปและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบสัมผัสอีกด้วย จริง ๆ ยังมีฟีเจอร์อีกมากมายที่ถูกใจสายเล่นเกมอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังเพิ่มความหัวร้อนให้กับฝ่ายตรงข้ามด้วยการเปลี่ยนเสียงแชทในเกมของเราให้เป็นเสียงแปลก ๆ ได้อีกด้วย
ถ่ายรูปสุดอลังด้วยกล้องหลัง 4 ตัว พร้อม AI ช่วยให้ถ่ายภาพได้ดีขึ้น
Vivo V17 จัดเต็มด้วยกล้องหลัง 4 ตัว ได้แก่
- กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รู้รับแสง f/1.8
- กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รู้รับแสง f/2.2 ระยะเลนส์ 13 มม. كيف تربح المال من الإنترنت
- กล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รู้รับแสง f/2.4
- กล้องวัดความลึก ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รู้รับแสง f/2.4
สำหรับการถ่ายภาพโหมดปกตินั้นจะได้ภาพที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเกิดจากการนำพิกเซล 4 พิกเซลมารวมกันเป็น 1 พิกเซลใหญ่เพื่อให้เก็บแสงได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าต้องการถ่ายเต็มความละเอียด 48 ล้านพิกเซลก็มีโหมด 48 MP ให้ถ่ายเช่นกัน
สำหรับโหมดที่น่าสนใจก็จะมีโหมดมุมมองกว้างพิเศษ โบเก้ และ Super Macro เข้าถึงได้จากการกดวงกลมสีขาวที่อยู่บริเวณมุมขวาล่างของ Live View สำหรับรุ่นนี้ไม่ได้ให้เลนส์ Telephoto มาแต่ก็สามารถซูมแบบ Digital ได้ถึง 10 เท่า
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง
ตัวอย่างภาพถ่ายโบเก้
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
แสงน้อยไม่กลัวเพราะมี Super Night Mode
เรียกได้ว่าไม่ตกเทรนด์เลยสำหรับ Vivo เพราะมีโหมดสำหรับถ่ายในที่มืดมาให้เหมือนกัน และทำออกมาได้ดีมากไม่แพ้ใครในช่วงราคาหมื่นกว่าบาท วิธีการถ่ายก็ไม่อยาก เข้าโหมดกลางคืนและกดถ่าย รอประมาณ 3 วินาทีก็ได้ภาพออกมาแล้ว
นอกจากนี้กล้องหลังก็ยังมีโหมดอื่น ๆ อีกมากมาย
สำหรับการถ่ายคนนั้นนอกจากโหมดหน้าชัดหลังเบลอ ก็ยังมีลูกเล่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจที่ช่วยให้ถ่ายภาพคนได้ออกมาดูดียิ่งขึ้น แถมยังใช้ได้กับกล้องหน้าอีกด้วย อย่างเช่น
Filters ช่วยทำให้ภาพเราโดดเด่นและสร้างอารมณ์ใหม่ ๆ ให้กับรูปภาพได้
Portrait light effects จัดแสงให้กับแบบที่เราถ่ายออกมาเหมือนกับการถ่ายรูปในสตูดิโอ หรือจะเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษอย่างเลนส์แฟลร์ด้วยก็ได้
Pose Master ช่วยสร้างกรอบท่าโพสต์ขึ้นมาให้คนที่กำลังถูกถ่ายจัดท่าทางตาม
AI Makeup แต่งหน้าเพิ่มให้กับคนที่กำลังถูกถ่ายอยู่ได้
นอกจากนี้ยังมีโหมดให้ปรับเค้าโครงของใบหน้า และสำหรับกล้องหลังนั้นยังสามารถปรับรูปร่างสรีระของคนที่กำลังถูกถ่ายได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
และสำหรับใครที่ซื้อ Vivo V17 ไปแล้ว อย่าลืมไปอัปเดตซอฟต์แวร์กัน เพราะว่าจะเพิ่มความสามารถในการถ่ายวิดีโอที่นิ่งขึ้นไปอีก หรือที่เรียกว่า Ultra Stable Video เข้ามาด้วย
สรุป น่าสนใจมากในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ ใครอยากได้รีบไปซื้อให้ไว!
ในราคาหมื่นต้น ๆ Vivo V17 จัดว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นไหน ๆ ในท้องตลาด มีจุดเด่นที่สเปคแรง แรมเยอะถึง 8 GB ความจุของเครื่องก็เยอะมากถึง 256 GB หน้าจอก็สวย กล้องหน้าที่อยู่ในหน้าจอเล็กพอที่จะไม่กวนสายตาขณะดูหนังหรือเล่นเกม แถมกล้องหลังถ่ายรูปได้ดีมาก ๆ น่าประทับใจมากโดยเฉพาะโหมด Super Macro รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่ให้มาเยอะถึง 4,500 mAh พร้อมระบบชาร์จไว Dual-Engine Fast Charging ที่ไม่ต้องชาร์จให้นานจนเสียเวลา สำหรับผมแล้วทั้งหมดนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ถ้าต้องจ่ายเงิน 11,999 บาทเพื่อแลกสิ่งเหล่านี้มา