เดิมที Hungry Hub ก็จัดเป็นช่องทางที่นักชิมชื่นชอบอยู่แล้ว เพราะจะมีโปรโมชั่นที่ร่วมกับร้านอาหาร ซึ่งไม่ได้จากการ Walk-in ตามปรกติ และการจับมือกับ Penguin Eat Shabu ในสภาวะ Work From Home แบบนี้ ก็ยังคงมีโปรโมชั่นที่ยั่วให้อยากเช่นเคย
Hungry@Home อิ่มอร่อยส่งถึงบ้าน
ที่ผ่านมาเราได้เห็น Hungry Hub ทำดีลพิเศษมากมาย ประเภทว่าเปลี่ยนร้านอาหารธรรมดาให้กลายเป็นบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มก็มี และในยุคที่ทุกคนต้องเผชิญกับการ Work From Home ต้องอยู่บ้านและเดินทางไม่สะดวกนัก Hungry Hub ก็ปรับตัวเป็นแกนกลางในการช่วยเหลือทั้งร้านอาหารและลูกค้า โดยจัดโปรโมชั่นและดำเนินการจัดส่งสินค้าให้ ทำให้ร้านค้ายังสามารถขายได้ ลูกค้าก็ได้อิ่มอร่อยกับโปรสุดคุ้มเช่นเคย เรียกได้ว่า Win กันทุกฝ่าย
การค้นหาโปรโมชั่นเด็ดๆ จาก Hungry Hub ก็ทำได้ง่ายๆ ผ่าน 3 ช่องทางได้แก่
- หน้าเว็บ https://www.hungryhub.com
- แอปบน iOS
- แอปบน Android
Penguin Eat Shabu เวอร์ชั่น Hungry@Home สุดคุ้มแบบส่งถึงบ้าน
สำหรับโปรโมชั่นของ Penguin Eat Shabu มีให้เลือกทั้งหมด 3 ราคา เริ่มต้นที่ 500 บาท, 800 บาท และ 1,000 บาท ซึ่งเราก็ได้จัดเซ็ต 1,000 บาทมาชิมและรีวิวให้ชม
เราสามารถเลือกเมนูได้หลายสิ่งอย่างตามรายละเอียดที่แจ้งไว้ ซึ่งผมเลือกเมนูดังนี้
- Premium Menu (เลือกได้ 2 รายการ)
- ข้าวหน้าวากิว กะเพรากรอบ+ไข่ดอง ราคา 350 บาท
- ข้าวหน้าลาวามันกุ้ง+ไข่ดอง ราคา 250 บาท
- Starter Menu (เลือกได้ 2 รายการ)
- สุกี้ เนื้อ ราคา 249 บาท
- สุกี้ หมู ราคา 219 บาท
- Don Buri (เลือกได้ 2 รายการ)
- ข้าวหน้าปลาแซลมอนย่าง ซอสเทริยากิ ราคา 139 บาท
- ข้าวหน้าหมูคุโรบูตะย่างถ่าน ซอสเทริยากิ ราคา 149 บาท
- Appetizer (เลือกได้ 1 รายการ)
- ยำแซลมอน ราคา 149 บาท
ถ้าคำนวณราคาปรกติของเมนูอาหารที่ผมสั่งจะอยู่ที่ 1,505 บาท แต่จ่ายจริงแค่ 1,000 บาท คุ้มมาก
เลือกเวลาจัดส่งได้ แพ็กของมาแน่นหนา
สิ่งที่ผมชอบ Hungry@Home ก็คือเราสามารถจ่ายเงินออนไลน์ได้เลย และยังสามารถเลือกเวลาจัดส่งได้ด้วย ทำให้เราบริหารเวลาได้ง่ายและไม่ต้องออกไปกดเงินสดเพื่อมาจ่ายค่าอาหาร
และสิ่งที่ผมประทับใจกว่านั้นก็คือการแพ็กอาหารที่แน่นหนา จัดส่งถึงมือได้โดยไม่เสียหาย ทุกกล่องมีการแพ็กแยกส่วนกันระหว่างข้าวและกับ รวมถึงการแยกไข่ดองใส่ถ้วยต่างหาก ทำให้อาหารไม่เสียหายระหว่างการจัดส่ง
อร่อยคุ้มค่า ปริมาณมหาศาล
แม้ว่าจะเป็นการ Delivery จัดส่งถึงบ้าน แต่ด้วยกรรมวิธีการทำและจัดส่งทำให้อาหารยังหอมอร่อยทุกเมนู แม้กระทั่งไข่ดองที่มักจะแตกกลางทางก็ยังอยู่รอดได้สวยงามน่ากิน
ข้าวหน้าวากิว กะเพรากรอบ+ไข่ดอง มีความหอมนุ่มของเนื้อวากิวบวกกับใบกะเพรากรอบที่ว่าอร่อยแล้ว พอตักรวมกับไข่ดองน้ำปลายิ่งหอมมันนัวเข้าไปอีก และถ้าบวกไข่ปลาแซนมอนเข้าไปด้วยนี่ล่องลอยได้เลย ทั้งความหอมมันจากเนื้อวากิว จากไข่ดองน้ำปลา จากไข่แซลมอน มันชวนฝันมากๆ รสชาติเผ็ดหน่อยๆ มากพอที่จะทำให้คนไม่กินเผ็ดรู้สึกร้อนผ่าวได้
ข้าวหน้าลาวามันกุ้ง+ไข่ดอง รสชาติออกไปทางหอมหวาน คลุกเคล้ากับเนื้อกุ้งเด้งๆ ก็ทำเอาผมรูดจนหยดสุดท้าย
สุกี้ เนื้อ และ สุกี้ หมู ถูกอัดมาแน่นมาก พอเทน้ำซุปลงไปก็คลุกรวมกันไม่ง่ายนัก เพราะปริมาณเยอะมาก ผักและส่วนประกอบต่างๆ ทำมาได้หอมอร่อยมาก ซึ่งสามารถกินเพียวๆ ได้เลย แต่ถ้าชอบปรุงรสหน่อยก็มีน้ำจิ้มสุกี้พร้อมพริกกระเทียมมาให้ด้วย ซึ่งปริมาณน้ำจิ้มไม่เยอะนัก ไม่เหมาะกับการเทลงชาม ควรเทใส่ถ้วยจิ้มจะเหมาะกว่า
ข้าวหน้าปลาแซลมอนย่าง ซอสเทริยากิ มีความนุ่มกำลังดี เนื้อปลายังคงมีความเป็นลิ่ม ไม่นุ่มไม่แข็งเกินไป บวกกับซอสหวานๆ เค็มๆ ก็เพลินไปอีกแบบ
ข้าวหน้าหมูคุโรบูตะย่างถ่าน ซอสเทริยากิ มีความหอมแบบเตาถ่านที่ไม่ได้จัดจ้านเหมือนพวกหมูกระทะ แต่เป็นความหอมแบบนุ่มนวลกว่านั้น ซึ่งเข้ากันได้ดีกับน้ำซอสที่ราดมา
ไข่ปลาแซลมอน ที่ควรจะอยู่คู่กับเซ็ต ข้าวหน้าปลาแซลมอนย่าง ซอสเทริยากิ แต่การแยกใส่ถ้วยมาแบบนี้ก็ทำให้เรามีอิสระในการเลือกจับคู่มากยิ่งขึ้น และปริมาณที่ให้มาก็ไม่น้อยเลย
ยำแซลมอน รสไม่ได้ดุดันเหมือนอาหารไทยสักทีเดียว แต่เป็นรสที่กินได้เรื่อยๆ มีความ fresh ของผักและความนุ่มของปลาแซลมอน จัดว่าเป็นอีกเมนูที่เพลิน
อันที่จริงเซ็ตนี้เหมาะกับ 3-4 คน แต่ผมอยู่กันแค่ 2 คน เลยแบ่งไว้กินได้หลายมื้อเลย เฉพาะข้าวญี่ปุ่นก็ให้มา 4 ถ้วยแล้ว สุกี้อีก 2 ชุดที่อัดมาแน่นๆ เรียกว่าทั้งเยอะทั้งอร่อย คุ้มมากครับ
