ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน

นอกจากการรีวิว HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch แบบตรงๆ แล้ว ก็มีคำถามว่าถ้าเทียบกับ iPad Pro ที่เป็นเจ้าตลาดฝั่ง Tablet แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งส่วนตัวแล้วผมใช้ iPad มาอย่างต่อเนื่องจนตัวล่าสุดคือ iPad Pro 11″ Generation 2 เลยบอกเล่าความรู้สึกนี้ได้ครับ

หมายเหตุ: HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ที่ใช้ในการรีวิว เป็นเครื่องทดสอบที่ได้มาลองก่อนวางขายจริง ทำให้หลายส่วนยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร

ประสบการณ์ Ecosystem ไร้รอยต่อ

นอกจาก Apple แล้วผมคิดว่ามีแต่ HUAWEI นี่แหละที่มีแนวโน้มจะสู้กันได้สมน้ำสมเนื้อ ทั้งคู่ไม่ได้ขายแค่อุปกรณ์โดดๆ แต่ขาย Solutions เพื่อให้อุปกรณ์แต่ละอย่างใช้ร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ สามารถแชร์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้ง่าย แต่ก็มีจุดต่างกันเล็กๆ น้อยๆ อยู่พอตัวครับ

การแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ก็ทำได้ดีเหมือนกัน โดย HUAWEI Share สามารถโยนไฟล์ข้ามระหว่าง Smartphone, Tablet, Notebook ได้ง่ายเหมือนที่ Apple มี AirDrop เลย แต่จุดที่ทำได้น่าสนใจก็คือ HUAWEI Multi-screen Collaboration ที่สามารถดึงหน้าจอของสมาร์ทโฟน HUAWEI มาไว้บนหน้าจอ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch เพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้ด้วย โดยวิธีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน HUAWEI ก็แค่หยิบมาแตะตรงปุ่ม Shift ที่มี NFC ฝังอยู่ แค่นี้ก็เชื่อมต่อได้แล้ว

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 3

ด้านการเชื่อมต่อตัว Tablet เข้ากับ Notebook ทางฝั่ง Apple Sidecar มีความคล้ายกับ HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop มากๆ ทั้งคู่สามารถทำตัวเป็นจอเสริมและขยายขีดความสามารถ เสมือนว่าเรามีโน้ตบุ๊คหน้าจอสัมผัสที่รองรับปากกาด้วย แต่ความรู้สึกส่วนตัวผมมองว่าฝั่ง HUAWEI ยืดหยุ่นกว่า เพราะรองรับการสั่งงานด้วยปลายนิ้วแม้จะเป็นการแสดงภาพจากโน้ตบุ๊คก็ตาม ในขณะที่ Apple จะต้องใช้ปากกาสั่งงานเท่านั้น

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 5

ด้านการเชื่อมต่อกับ Wearable แม้ว่า Apple Watch จะติดตั้งแอพเพิ่มได้หลากหลายกว่า แต่ข้อจำกัดก็คือเราไม่สามารถเอา Apple Watch เชื่อมต่อเข้ากับ iPad Pro 11″ ได้ ในขณะที่ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch สามารถเชื่อมต่อกับ HUAWEI Band 6 ได้โดยตรง

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 7

อุปกรณ์เสริมที่ทดแทนกันได้

ด้านแป้นพิมพ์หากอ้างอิงเวอร์ชั่น ณ วันที่ทำการทดสอบก่อนขายจริง ต้องบอกว่าฝั่ง iPad Pro 11″ ทำได้ดีกว่า การเปลี่ยนภาษาและความเสถียรทำได้นิ่งกว่า ส่วน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ยังมีการสลับภาษามึนๆ ในบางครั้ง ผมใช้วิธีเปลี่ยนเมนูเครื่องเป็นภาษาไทย และสลับไปใช้แอพ Gadgetdoor Thai Keyboard เพื่อให้การใช้แป้นพิมพ์บน HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ใช้งานภาษาไทยได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 9

การเชื่อมต่อกับเคสคีย์บอร์ดของ iPad Pro 11″ ล้ำกว่าแต่ราคาก็สูงกว่ากันเป็นเท่าตัว มีให้เลือกทั้งแบบ Apple Smart Keyboard Folio ที่เป็นแป้นพิมพ์อย่างเดียว และแบบ Apple Magic Keyboard ที่มีทัชแพดด้วย โดยฝั่ง Apple ใช้วิธีเชื่อมต่อผ่าน Connector ที่เป็นขั้วเหล็กสัมผัสกัน ในขณะที่ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 11

ซึ่งการเชื่อมต่อแบบ Apple ทำได้ง่ายและไม่ต้องใช้การ Sleep ดังนั้นเมื่อวางเครื่องทิ้งไว้นานๆ เมื่อมาเปิดใช้ก็พร้อมพิมพ์ได้ทันที แต่ของ HUAWEI ก็ทำการบ้านมาดีพอตัว แม้ว่าจะเป็น Bluetooth แต่ก็เชื่อมต่อได้เร็ว และจะทำงานต่อเมื่อวางเข้าล็อกบนฐานเท่านั้น ถ้าไม่ได้วางเข้าล็อกจะไม่รับคำสั่งจากแป้นพิมพ์ ทำให้ไม่มีอาการลั่นเผลอโดนปุ่ม

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 13

สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดสำคัญเลยก็คือความแม่นยำของปากกา ซึ่งในภาพรวมต้องยอมรับว่า Apple Pencil ทำได้ดีกว่า ไม่ใช่เพราะตัวปากกาอย่างเดียว แต่เพราะแอพต่างๆ ที่พัฒนากันมานานจนลงตัวกว่า อย่างเช่น Procreate ที่ใช้วาดรูปกันอย่างจริงจังได้สบายๆ ส่วน HUAWEI ก็ใช้งานได้ดีเหลือเฟือสำหรับการขีดเขียน แต่ถ้าใช้ในระดับการวาดที่ต้องการความแม่นยำสูงยังสู้ iPad ไม่ได้ …แต่ถ้าคุณใช้ปากกาฝั่ง Android มาก่อน ผมว่าตัวนี้ก็อยู่ในระดับแถวหน้าเลยล่ะ

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 15

วิธีการชาร์จปากกาก็ทำเหมือนกัน ด้วยการเอาปากกาไปดูดติดกับด้านข้างของเครื่อง ก็จะเป็นการจัดเก็บพร้อมกับชาร์จไปในตัว …อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่า M-Pencil ก็ยังไม่สมบูรณ์ดี เพราะระหว่างที่เราทำการทดสอบก็มีอัพเดทถูกปล่อยมาเพิ่มประสิทธิภาพครับ

ประสบการณ์ความบันเทิง

เรื่องความบันเทิงของทั้งคู่เรียกได้ว่าไม่แพ้กันเลย ด้วยหน้าจอที่เป็น DCI-P3 เหมือนกัน มีระบบ True Tone เหมือนกัน จะต่างก็ตรงที่ Refresh Rate ที่ Apple มาแบบ 120 Hz ในขณะที่ฝั่ง HUAWEI ก็มีจุดขายอย่างระบบถนอมสายตาที่ผ่านมาตรฐาน TÜV Rheinland 

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 17

ส่วนลำโพงของ HUAWEI ให้มาดุเดือดมาก ด้วยลำโพง 8 ตัวที่แบ่งเป็นย่านความถี่สูง 4 ตัวและเสียงทั่วไปอีก 4 ตัว เพื่อให้ได้เสียงที่เต็มอิ่มที่สุดและลดอาการเสียงแตกเมื่อเปิดดังสุด ด้วยการปรับแต่งจาก harman/kardon เจ้าเก่า ส่วน iPad Pro 11″ ให้ลำโพงมา 4 ตัว

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 19

จากการใช้งานจริงผมรู้สึกว่าลำโพงของ iPad Pro 11″ ก็จัดว่าดีแล้ว แต่ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ให้เสียงที่ใส นุ่ม และกังวาลกว่า ในแง่ความสวยงามของหน้าจอก็เรียกได้ว่าไม่แพ้กัน แต่จุดต่างน่าจะเป็นเรื่องของแอพมากกว่า ซึ่งโดยรวมแล้วแอพต่างๆ ก็ใกล้เคียงกัน สามารถลงแอพ Netflix ได้เหมือนกัน เพียงแต่ ณ วันที่ทดสอบ ตัวแอพ Netflix ยังไม่สามารถแสดงความละเอียดแบบเต็มที่ได้บน HarmonyOS 2.0 ซึ่งตรงนี้ได้สอบถามไปยัง HUAWEI และได้รับคำตอบว่ากำลังจับมือกันพัฒนาให้ใช้งานกับ HMS ได้เต็มรูปแบบครับ

ส่วนการใช้งาน YouTube บน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จะเปิดผ่านหน้าเว็บก็ได้ หรือถ้าอยากจะใช้แอพก็แนะนำว่าติดตั้ง Gspace ก็จะใช้งาน Google ได้ตามปรกติครับ

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 21

อีกสิ่งที่สำคัญมาก ก็คือเรื่องของ Kids Mode ให้เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และความบันเทิงของเด็ก ซึ่งจุดแข็งของโหมดนี้คือการล็อกให้เด็กใช้งานได้เฉพาะแอพ เพื่อป้องกันเด็กเล่นแอพที่ไม่ควร รวมถึงป้องกันการกดซื้อของโดยไม่ตั้งใจด้วย …นี่เป็นอีกจุดที่ผมมองว่า HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ทำได้ดีกว่า iPad Pro 11″

กล้องที่ออกแบบมาต่างกัน

ด้านของกล้องให้สีสันที่ต่างกันออกไป โดยกล้องหน้าของ iPad Pro 11″ จะให้สีสันที่ดูอิ่มกว่า ส่วน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จะดูซีดกว่าแต่ก็สว่างกว่า ซึ่งถ้าเอามาถ่ายเน้นสวยงามดูเหมือนฝั่ง iPad Pro 11″ จะน่าสนใจกว่า แต่ถ้าเอามาทำ VDO Call ที่ไม่เน้นความสวยงามแต่เน้นความสว่างชัดเจน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ก็น่าจะเหมาะกว่า ประกอบกับ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch มีไมค์รับเสียง 4 ตัวเพื่อให้ได้เสียงที่คมชัดด้วย

ด้วยความที่ HUAWEI โดดเด่นเรื่องกล้องมาหลายปี เมื่อยกห้องเครื่องตัวแอพกล้องและ AI ต่างๆ มาไว้บน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ก็ทำให้กล้องหลังออกมาดูคมชัดและสวยกว่า โดยเฉพาะในที่แสงน้อยที่มี Night mode เจ๋งๆ ให้ใช้

นอกจากนี้ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ยังให้โหมด Aperture, Light painting, Document ฯลฯ มาด้วย และยังมีการ Integrate ความสามารถของ Microsoft เข้ามาไว้ในส่วนของ AI Lens ทำให้สามารถส่องกล้องเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแปลภาษาได้ทันที

และจุดต่างที่สำคัญคือตำแหน่งการวางกล้องหน้า เพราะ HUAWEI เลือกจะวางไว้ตรงกลางในแนวนอนเหมือนเราใช้งานโน้ตบุ๊ค ทำให้องศาภาพที่ได้อยู่กึ่งกลาง แต่ฝั่ง Apple วางกล้องไว้กลางจอในแนวตั้ง ทำให้การถ่ายรูปแนวนอนเลยได้มุมองศาที่ไม่ดีเท่าไร

บทสรุปความรู้สึกจากการใช้งาน

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากพอควรที่จะอธิบายความรู้สึกของคู่นี้ เพราะส่วนตัวผมใช้ Apple เป็นเครื่องหลักมาหลายปี และพก HUAWEI ควบคู่มานาน ดังนั้นถ้าจะให้บอกว่าอะไรดีกว่าคงตอบได้ยาก เพราะสุดท้ายแล้วมันขึ้นอยู่กับความชอบและความคุ้นชิน แต่ถ้าคิดให้ง่ายกว่านั้นก็คือถ้าไม่ชอบ iPadOS ก็นับว่า HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ที่มาพร้อม HarmonyOS 2.0 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก

ความรู้สึกการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จากคนที่ใช้ iPad Pro มานาน 31

ผมได้ถามความเห็นทีมงานเพิ่มเติม และได้ความเห็นว่าถ้าเทียบ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch กับ Android Tablet ในแง่ความลื่นไหลทั้งความเร็วและอนิเมชั่นต่างๆ ต้องยกให้ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ดีกว่าเยอะมาก แต่ที่ต้องปรับตัวก็คือเรื่องของแอพที่มีความแตกต่างกับ Android อยู่บ้าง แต่ก็มีวิธีตั้งค่าทดแทนได้แทบทั้งหมด

ส่วนตัวแล้วผมเสพติด Apple Ecosystem เพราะไม่เคยเจอค่ายไหนที่มีของที่ใกล้เคียงเลย แต่วันนี้ HUAWEI ทำให้ผมรู้สึกว่าแบรนด์นี้มีดีและรอวันโชว์ศักยภาพ และบ่อยครั้งที่ผมหยิบ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch มาใช้งานแทน iPad Pro 11″ เพราะมันมีบางอย่างที่ทำได้ดีกว่าแล้วในการใช้งานจริง