HUAWEI MatePad 11.5 ที่มีคีย์บอร์ดและปากกา เมื่อใช้งานควบคู่กับแอป HUAWEI Notes ก็เปลี่ยนแท็บเล็ตขนาดหน้าจอใหญ่ 11.5 นิ้ว ให้กลายเป็นแล็ปท็อปขนาดเล็กพกพาง่ายได้ แบบโน้ตยิ่งกว่าโน้ต กับราคาโปรโมชั่นสุดเร้า 9,990 บาท จากราคาเต็ม 14,480 บาท …ราคานี้ผมแนะนำว่าซื้อเถอะ
HUAWEI MatePad 11.5 Wi-Fi 6GB+128GB
ประสิทธิภาพและการออกแบบที่น่าสนใจ
HUAWEI MatePad 11.5 หากมองแบบผิวเผินแล้วคล้ายกับ HUAWEI MatePad 11 2023 มากๆ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งกล้องที่วางไว้กึ่งกลางเน้นการใช้งานในแนวนอน ตัวเคสที่มาพร้อมแป้นพิมพ์แบบถอดแยกชิ้นได้เพื่อความสะดวก และยังสามารถพิมพ์ได้แม้แยกชิ้นกัน จุดต่างในแง่การออกแบบคือรุ่นนี้ไม่มีช่องเก็บปากกาในตัว และมีเคสที่บางลงดูสลิมมากขึ้น
ในเมื่อไม่มีช่องเก็บและชาร์จปากกาในตัว HUAWEI MatePad 11.5 เลยใช้วิธีชาร์จ HUAWEI M-Pencil ( รุ่นที่ 2 ) ผ่านการเสียบสายแทน โดนเราสามารถเสียบสายเข้ากับตัวเครื่องเพื่อชาร์จได้ทันที
จุดที่น่าสนใจก็คือหน้าจอขนาด 11.5 นิ้ว ที่มีสัดส่วนพื้นที่ 86% หรือภาษาง่ายๆ คือขอบจอค่อนข้างบางนั่นเอง โดยพื้นที่ขอบจอก็ถูกใช้วางกล้องด้วย ทำให้การแสดงผลเต็มตาไม่มีกล้องมาเกะกะสายตา อัตราส่วนที่เลือกใช้ยังคงเป็น 3:2 ที่หัวเว่ยนิยมใช้กับรุ่นที่เน้นการทำงานในแนวนอน เนื่องจากเป็นอัตราส่วนที่แสดงเนื้อหาแนวตั้งได้เยอะกว่า
ด้านความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 2200×1440 และรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ช่วยให้ภาพคมชัดและมีการเคลื่อนไหวที่สมูธเนียนตา พร้อมมาตรฐาน TÜV Rheinland ที่ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ด้วยการลดแสงสีฟ้าและการกระพริบจอ ทำให้การทำงานหรือเล่นนานๆ ก็ไม่ทรมานสายตา
รับสิทธิ์ดู WeTV VIP ระยะเวลา 3 เดือน สำหรับ HUAWEI MatePad 11.5
ด้านสเปคความแรงใช้ Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 ที่เป็นชิปขนาด 4 นาโนเมตร ถ้าอ้างอิงทฤษฎีแล้วก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารพลังงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าพูดในเชิงปฏิบัติแล้วก็แรงพอที่จะเล่นเกมได้แทบทั้งหมด แบบลื่นในระดับคนส่วนใหญ่พอใจ
ด้านความบันเทิงก็พกความกระหึ่มมาด้วยลำโพง 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Histen 8.0 ( ไฮซึ่น 8.0 ) ที่ปรับจูน EQ ให้มีเสียงเบสและย่านเสียงที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ AI ตัดเสียงรบกวนเพื่อให้การวีดีโอคอล หรือประชุมมิตติ้ง มีการสนทนาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 7700 mAh ที่ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 10.5 ชั่วโมง หรือประชุมออนไลน์ได้ 6.3 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้อัดแน่นอยู่ในตัวเครื่องน้ำหนัก 499 กรัม
จัดการงานเอกสารได้คล่องตัว
ในช่วงปีที่มาผ่าน พฤติกรรมการใช้งานของคนกลุ่มใหญ่ได้เปลี่ยนไป โดยต้องการอุปกรณ์ที่พกพาสะดวกและสามารถทำงานได้ตลอดเวลา ซึ่ง HUAWEI MatePad 11.5 ก็ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานในลักษณะนี้เช่นกัน โดยสามารถจัดการงานเอกสารได้เช่นเดียวกับบนคอมพิวเตอร์ จะติดตั้ง Microsoft365 ( Microsoft Office ) ตามที่คุ้นเคย หรือจะใช้ของฟรีอย่าง WPS Office ก็ได้เช่นกัน
ข้อดีของ WPS Office คือสามารถจัดการเอกสารจำพวก Word, Excel และ PowerPoint ได้ง่ายๆ นอกจากจะฟรีแล้ว ยังมีเครื่องมือในการแก้ไข PDF ด้วย สามารถแปลงไฟล์ PDF to Word, PDF to PowerPoint หรือ Export to PDF และอื่นๆ อีกหลายสิ่ง
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้งานปากกา M-Pencil ( รุ่นที่ 2 ) ในการขีดเขียน ช่วยจดบันทึก หรือแม้แต่เซ็นเอกสารก็ได้ ซึ่งความเป็นหน้าจอสัมผัสและมีปากกานี่เอง ทำให้สะดวกกว่าการใช้แล็ปท็อปหรือโน้ตบุ๊คส่วนใหญ่ มาถึงตรงนี้ก็คงเห็นแล้วว่าเราสามารถจัดการงานเอกสารได้เหมือนใช้คอมพิวเตอร์ แต่พกพาง่ายและคล่องตัวกว่าแล็ปท็อปนั่นเอง
HUAWEI Notes แอปจดบันทึกที่สะดวก
ความดีงามของ HUAWEI M-Pencil ( รุ่นที่ 2 ) จะได้เฉิดฉายเต็มที่เมื่อใช้คู่กับ HUAWEI Notes ด้วยความที่ปากการองรับแรงกด จึงทำให้การวาดเขียนออกมาลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ และยังสามารถสลับโหมดระหว่างปากกากับยางลบได้ง่าย เพียงแค่แตะที่ด้ามปากกา รวมไปถึงการจับภาพหน้าจอหรือทำ Annotation ก็แค่ปัดจากมุมจอ
HUAWEI Notes เปรียบได้ดั่งแอปที่ปลดปล่อยอิสรภาพในการใช้จินตนาการ โดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อแอปเพิ่ม ให้เราพิมพ์หรือใช้ปากกาในการวาดเขียนจดบันทึกได้ดั่งใจ พร้อมกับการจัดเก็บแยกเป็นเล่มเสมือนเรามีสมุดจดเฉพาะด้าน ที่สามารถ Export เป็นไฟล์รูปหรือ PDF ก็ได้
ลายเส้นที่ได้จากการขีดเขียน มีความเป็นธรรมชาติมาก พริ้วไหวตามการสบัดปลายปากกา ไม่มีอาการเส้นหยักยึกยือให้เห็น และยังมีทีเด็ดอย่าง Color Capture ให้เราดูดสีจากแอปอื่นๆ มาใช้ใน HUAWEI Notes ได้ด้วย เพียงแค่เปิดแอป 2 หน้าต่าง และกดเปลี่ยนสีที่จะใช้ แล้วเลือกเครื่องมือดูดสีก็จะได้สีที่ต้องการแล้ว
อีกฟีเจอร์ที่อยากนำเสนอก็คือการ Import PDF to HUAWEI Notes ซึ่งผมใช้บ่อย เพราะจะทำให้เราสามารถแก้ไขไฟล์ PDF ด้วยการ Annotation ขีดเขียน วาด วง และเซ็นได้อย่างง่ายดาย เมื่อเสร็จสรรพก็จับ Export to PDF ส่งให้ผู้ร่วมงานได้ทันที
การทำงานแบบ Multitask ขั้นกว่า
เดี๋ยวนี้การเปิดแอปหลายหน้าต่างเปรียบเสมือนเรื่องพื้นฐานไปแล้ว แต่ HUAWEI MatePad 11.5 มีฟีเจอร์ที่รุ่นอื่นให้ไม่ได้ แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบคือ
- Multi-Window ที่เปิดใช้งานพร้อมกันได้หลายหน้าต่าง
- Super Device ที่ใช้เชื่อมโยงอุปกรณ์ของหัวเว่ยเข้าด้วยกัน ขยายขอบเขตรูปแบบการทำงาน
- SuperHub เปรียบเสมือนจุดพักข้อมูล ให้เราลากรูปหรือคัดลอกข้อความไปวางเก็บไว้ได้
นั่นทำให้เราประยุกต์ใช้ได้เยอะมาก เช่น จับคู่กับแล็ปท็อป HUAWEI MateBook 16s โดยให้ HUAWEI MatePad 11.5 เป็นหน้าจอเสริม หรือจะถ่ายรูปแล้วโยนไฟล์จาก HUAWEI Mate 50 Pro มาแต่งต่อก็สะดวก
แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ ของหัวเว่ยเลย การใช้ SuperHub ก็สะดวกมาก ยกตัวอย่างเช่นการคัดลอกก๊อปปี้ข้อความ ปรกติจะทำได้ทีละ 1 ข้อความเท่านั้น แต่เมื่อเราใช้ SuperHub เป็นที่พักข้อความชั่วคราว ก็ทำให้เราคัดลอกได้หลายข้อความ แล้วค่อยไปวางรัวๆ
หรือจะใช้กับการเลือกรูปเยอะๆ ไปพักไว้ใน SuperHub แล้วเอาไปใช้งานทีเดียวก็ได้ ตอนใช้งานเราจะลากทีละรูปมาวาง หรือเลือกทั้งหมดก็ได้เหมือนกัน
ประสบการณ์ใช้งานจริง
แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่มีที่เก็บปากกาในตัวซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกขัดใจ แต่มันก็มีข้อดีตรงที่ตัวเคสมีขนาดบางลงมาก นอกจากจะสวยขึ้นแล้วยังพกง่ายขึ้นอีกด้วย การถอดแยกชิ้นแป้นพิมพ์ เป็นสิ่งที่ผมชื่นชมหัวเว่ยมาตลอด เพราะมันทำให้ปวดหลังน้อยลง เราสามารถวางส่วนของตัวเครื่องไว้ในระดับสายตา และถอดแป้นพิมพ์วางต่ำลงให้เหมาะกับสรีระได้
ความเร็วความแรงในการใช้งานจริง ผมคิดว่าเหลือเฟือสำหรับคนส่วนใหญ่นะครับ จะใช้ทำงานหรือดูหนังฟังเพลงเล่นเกม ล้วนได้ทั้งหมด และสำหรับสายจดบันทึก HUAWEI Notes เป็นอะไรที่ดีงามมาก โดยเฉพาะการ Import PDF ที่ผมชอบมาก เพราะผมมักจะต้องเซ็นและกรอกเอกสารต่างๆ ด้วยลายมือ ซึ่งปรกติแล้วก็ต้องสั่งปริ้นจากคอม แล้วก็เขียนจากนั้นสแกนให้เป็นไฟล์ ซึ่งมันหลายขั้นตอนมาก แต่การ Import PDF มากรอกข้อมูลแล้ว Export PDF ส่งกลับ มันเป็นสิ่งที่สะดวกมาก
นอกจากนี้ HUAWEI Notes ยังถูก Sync ข้ามอุปกรณ์ นั่นทำให้ไฟล์เอกสาร PDF ที่ผม Import ไม่หายไป หรือถ้าเป็นสายงานออกแบบดีไซน์ก็จะชอบฟีเจอร์ Color Capture ทำให้ได้สีที่ต้องการอย่างไม่ผิดเพี้ยน
สิ่งที่หลายคนถามหาอย่างบริการเครือ Google ตอนนี้ก็ติดตั้งได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ติดตั้ง GBox ผ่านทาง AppGallery ก็สามารถใช้แอปหลักๆ ได้ครบถ้วน แต่ถ้าอยากได้ Google PlayStore ด้วย ณ ตอนนี้ก็ต้องโหลดไฟล์จากเว็บ https://www.gboxlab.com มาติดตั้งโดยตรงครับ
นอกจากหน้าจอใหญ่แล้วการมีระบบเสียงที่ดีทั้งลำโพงและไมค์ ก็ช่วยให้การใช้งานทุกอย่างลงตัวไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังฟังเพลง หรือการคอลคุยงาน
บทสรุปรีวิว HUAWEI MatePad 11.5
HUAWEI MatePad 11.5 ราคาปรกติขายที่ 14,480 บาท ก็ว่าคุ้มแล้ว แต่ราคาโปรโมชั่น 9,990 บาท ได้ปากกา, WeTV VIP 3 เดือน นี่บอกได้แค่ว่า… ซื้อเถอะ