แรกพบสบตาในงานเปิดตัว HUAWEI WATCH GT 4 ก็ทำเอาผมอยากขยับจากรุ่นเดิมทันที ด้วยความฉลาดอีกขั้นและดีไซน์ที่ดึงดูดกว่าเดิมทั้งตัวเรือนและ HarmonyOS 4 ที่ช่วยเพิ่มความน่าใช้
Auto Sleep mode
ฟีเจอร์แรกที่ผมอยากหยิบมาเล่าก็คือการเข้าสู่ Sleep mode อัตโนมัติ ซึ่งเราจะเลือกเปิดโหมดนี้หรือปิดก็ได้ สาเหตุที่ผมชอบเพราะในความเป็นจริงแล้วผมนอนไม่เป็นเวลาเท่าไร เนื่องจากไม่ได้ทำอาชีพแบบ routine ที่มีเวลานอนชัดเจน ทำให้ไม่สามารถใช้ระบบ Schedule Sleep mode ที่เข้าสู่ Sleep mode ให้อัตโนมัติทุกวันตามเวลาที่เราตั้งไว้
บ่อยครั้งที่ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียงแล้วลืมเปิด Sleep mode ถ้าเป็น Smartwatch รุ่นเก่าๆ ก็จะสั่นกวนใจจนเราตื่น แต่นั่นไม่ใช่กับ HUAWEI WATCH GT 4 ที่ตรวจจับว่าเรานอน จากนั้นก็จะเข้าสู่ Sleep mode ให้อัตโนมัติ
ตรวจจับได้แม้แอบงีบ
การที่นาฬิกาข้อมือจะตรวจจับการนอนได้อย่างแม่นยำก็ถือว่าเก่งแล้ว แต่นี่เก่งไปถึงระดับรู้ได้ว่าเราแอบงีบ สำหรับผมฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ตรงที่บางครั้งเราก็ไม่รู้ตัวว่าเราเผลอหลับสั้นๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ เราจะได้ปรับปรุงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพิ่มเวลาพักผ่อน
ตรวจวัดความเครียด
สิ่งที่ทำให้ผมหนีไปใช้สมาร์ทวอทช์ค่ายอื่นไม่ได้สักที ก็เพราะหัวเว่ยมีระบบตรวจวัดความเครียดซึ่งสำคัญกับผมมาก ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็ทำงานได้แม่นยำมาก ล่าสุดผมได้รับเชิญให้ไปดูหนังเรื่อง ธี่หยด รอบสื่อมวลชน ทีนี้ปัญหาคือเวลาคนส่วนใหญ่รีวิวหนังผี ก็จะสปอยไปเลยซึ่งคนส่วนมากก็ไม่ชอบ ก็เลยออกมาเป็นการพูดแค่ว่า ลุ้นมาก ดีมาก นักแสดงเล่นดี ฯลฯ ซึ่งมันก็ไม่เห็นภาพ บางคนก็ไม่เชื่อรีวิว มองว่าเป็นการอวยหนัง ยิ่งเป็นหนังไทยแล้วด้วย คนก็ยิ่งคิดว่าเชียร์กันเอง
แต่ผมมี HUAWEI WATCH GT 4 ที่โกหกไม่ได้ มันวัดความเครียดออกมาเลย เห็นชัดว่าช่วงรอดูหนังผมก็ชิลๆ ไม่เครียด แต่พอหนังเริ่มฉายเท่านั้นล่ะ ความเครียด ความลุ้น ความตึงเริ่มมา และก็ตึงแบบนั้นจนหนังจบ ซึ่งคนที่เห็นรีวิวสั้นๆ นี้ก็เชื่อทันทีว่าหนังดี โดยที่ผมไม่ต้องร่ายยาวอะไรเลย
เสริมสร้างพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดี
Activity Rings คืออีกฟีเจอร์ที่ทางหัวเว่ยให้ความสำคัญ โดยเป็นกราฟวงกลม 3 เส้นที่บ่งบอกถึง move, exercise, stand ถ้าเราทำได้ครบถ้วน ก็จะเป็นการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้สุขภาพดียิ่งขึ้น
ดีไซน์ส่งเสริมภาพลักษณ์
็HUAWEI WATCH GT 4 มีให้เลือก 2 ขนาด คือหน้าปัด 46 มม. และ 41 มม. โดยแยกย่อยไปอีก ต่างกันที่วัสดุตัวเรือนและสายนาฬิกา ราคาเริ่มต้นที่ 6,990 บาท ซึ่งรุ่นที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือรุ่นที่เป็นดีไซน์แบบโลหะ ราคา 12,990 บาท
ดีไซน์ภายนอกของรุ่นนี้เหมาะกับมาดนักธุรกิจมาก ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการติดต่อเจรจางานได้เป็นอย่างดี
HarmonyOS 4 สวยและใช้งานง่ายขึ้น
ในเวอร์ชั่นนี้นอกจากจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่แล้ว ยังมีการปรับปรุง UI ให้สวยงามน่าใช้ยิ่งขึ้นด้วย โดยมี Widget ให้เลือกใช้หลายแบบ และหน้าปัดสวยๆ ก็มีให้เลือกเยอะขึ้น ซึ่งหน้าปัดแต่ละอันก็สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้อีก เลือกได้ว่าจะให้แสดงผลอะไรบ้าง เช่น อุณหภูมิ, กราฟความเครียด, อุณหภูมิร่างกาย, คุณภาพของการนอน, การโทรออก ฯลฯ
บทสรุป
ในภาพรวมแล้วหัวเว่ยยังคงเด่นกับการทำ Smartwatch เช่นเคย ซึ่ง 2 รุ่นล่าสุดที่ผมใช้เป็นประจำคือ HUAWEI WATCH GT 3 Pro และ HUAWEI WATCH BUDS ก็มีจุดเด่นอย่าง ECG และการมีหูฟังในตัว พอมาเป็น HUAWEI WATCH GT 4 ก็เหมือนการรีเฟรชขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการตรวจจับวัดค่าที่แม่นยำมากขึ้น เพิ่มความสามารถที่เหมาะกับการใช้จริงในชีวิตประจำวัน
