Advertorial

Advertorial

เนื้อหานี้มีการสนับสนุนในลักษณะของ Advertorial

รวบตึง 5 ข้อเด่น HUAWEI nova 10 Series สมาร์ทโฟนครบเครื่องเรื่องกล้องหน้า ที่สายคอนเทนต์ต้องมีสำหรับทริปต่อไป

รวบตึง 5 ข้อเด่น HUAWEI nova 10 Series สมาร์ทโฟนครบเครื่องเรื่องกล้องหน้า ที่สายคอนเทนต์ต้องมีสำหรับทริปต่อไป 1

ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นับว่าเป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการไปต่างประเทศจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวของประเทศยอดฮิตต่างๆ มากมาย โดยสถิติการทำหนังสือเดินทางของคนไทยล่าสุดของกรมการกงศุลเมื่อเดือนมีนาคม 2565 มีจำนวนมากกว่า 90,000 ราย[1] นั่นหมายความว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเตรียมตัวถ่ายคอนเทนต์สวยๆ บันทึกเป็นความทรงจำ พร้อมกันนี้กระแสการถ่ายภาพ วิดีโอ รวมถึงเซลฟี่แนวตั้งก็กำลังมาแรง ผู้นำเรื่องกล้องสมาร์ทโฟนสุดว้าวอย่างหัวเว่ยที่รู้ใจลูกค้าดี จึงแนะนำ 5 จุดเด่นที่สมาร์ทโฟนซีรี่ส์ใหม่อย่าง HUAWEI nova 10 Series จะทำให้ทริปหน้าสนุกกว่าเดิมด้วยลูกเล่นการทำคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร สุดยอดพลังแห่งการเซลฟี่ การกลับมาของสมาร์ทโฟน HUAWEI nova Series ครั้งนี้ มาพร้อมกับรุ่นท็อปอย่าง HUAWEI nova 10 Pro ซึ่งเรียกได้ว่านำนวัตกรรมมาตอบโจทย์คนรักการเซลฟี่โดยเฉพาะ เพื่อให้คนที่เที่ยวแบบลุยเดี่ยว หรือชอบถ่ายคอนเทนต์ด้วยตัวเองมีภาพเซลฟี่ที่คมชัด สวยงามเสมือนถ่ายด้วยกล้อง DSLR นั่นก็คือครั้งแรกของหัวเว่ยกับเทคโนโลยีกล้องหน้าคู่ โดยกล้องแรกคือ 60MP Dual Autofocus Selfie Camera ที่เลนส์ Auto Focus จะทำงานร่วมกับ Quad Phased Detection (QPD) ช่วยจับโฟกัสได้เร็วขึ้น 30%[2] เมื่อเทียบกับเลนส์ Auto Focus ทั่วไป พร้อมการถ่ายultra-wide ได้มากถึง 100 องศา[3] และรองรับการถ่ายวิดีโอเซลฟี่ไปถึงระดับ 4K ด้านกล้อง 8MP Portrait Close-up Camera ช่วยให้ผู้ใช้ขยายซูมภาพเซลฟี่แบบ Optical Zoom ได้ 2 เท่าและ Digital…

ย้ำ 5 ความโดดเด่นของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ 120 HZ OLED FullView Display

ย้ำ 5 ความโดดเด่นของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ 120 HZ OLED FullView Display 3

ตลาดสมาร์ทดีไวซ์ในปัจจุบันเต็มไปด้วยแท็บเล็ตมากมายที่แบรนด์ต่างๆ นำเสนอกันอย่างต่อเนื่อง ใครที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้ที่พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และมองหาประสิทธิภาพแรงๆ ในไอเท็มที่รองรับการทำงานอย่างชาญฉลาด สะดวกสบาย ใช้งานง่ายในแบบ Smart Office ก็จะชนะใจลูกค้าได้ไม่ยาก สำหรับหัวเว่ยที่ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางมาตลอด พร้อมด้วยประสบการณ์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ทั้งเข้าใจและพร้อมตอบสนอง insight ของผู้บริโภคอย่างตรงจุดกับ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตเรือธงตัวล่าสุดที่เรียกได้ว่ายังคงความร้อนแรงที่สุดรุ่นหนึ่งในเวลานี้ วันนี้เราจะมาย้ำ 5 ความโดดเด่นของดีไวซ์อัจฉริยะรุ่นนี้ว่ามีอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย ข้อที่ 1 – คุณภาพคับจอ ไม่ว่าคอนเทนต์ไหนๆ ก็คมชัดเต็มตาไร้ที่ติ HUAWEI MatePad Pro 11-inch มาพร้อมกับหน้าจอ HUAWEI FullView Display แบบ OLED ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล ทำให้สามารถแสดงผลได้คมชัด และอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่กว้างขึ้นถึง 92% ช่วยให้รับชมเนื้อหาได้เต็มตามากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถแสดงสีบนหน้าจอได้ถึง 1.07 พันล้านสีและมีค่าความแม่นยำอยู่ที่ △E <1[1] เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ต้องใช้งานแท็บเล็ตเพื่อการสร้างสรรค์ รับประกันเลยว่า HUAWEI MatePad Pro 11-inch สามารถแสดงผลของสีได้ไม่มีผิดเพี้ยน แถมยังถูกใจสายเล่นเกมแน่นอนเพราะหน้าจอแสดงผลอย่างลื่นไหลสูงสุดถึง 120 เฟรมต่อวินาทีแบบไม่มีสะดุด และหากมีความจำเป็นต้องใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็ไม่ต้องกังวลเพราะ HUAWEI…

คุ้มจัด! HUAWEI Band 7 กับ 4 ฟีเจอร์เด่น ตอบโจทย์ยุคสุขภาพในงบ 1,299 บาท

คุ้มจัด! HUAWEI Band 7 กับ 4 ฟีเจอร์เด่น ตอบโจทย์ยุคสุขภาพในงบ 1,299 บาท 7

ในยุคที่สุขภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง ขอแนะนำสมาร์ทแบนด์คู่ใจรุ่นใหม่ HUAWEI Band 7 ผู้ช่วยอัจฉริยะสุดคุ้มค่าที่นาทีนี้ใครก็อยากเป็นเจ้าของ หลังเปิดตัวด้วยโปรโมชันร้อนแรงที่ลดพิเศษเหลือเพียง 1,299 บาท จากราคาปกติ 1,899 บาท จัดได้ว่าคุ้มเกินคุ้ม เพราะเจ้าสมาร์ทแบนด์อัจฉริยะน้องใหม่ล่าสุดจากหัวเว่ยนี้อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่พร้อมดูแลสุขภาพเราตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังเป็นสมาร์ทแบนด์ที่สามารถวัดระดับ SpO2[1] หรือค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้อัตโนมัติตลอดวันอีกด้วย เรียกว่าซื้อสมาร์ทแบนด์แต่ได้ประสบการณ์เกือบเทียบเท่าสมาร์ทวอทช์ก็ไม่เกินจริง วันนี้เราขอพาไปเจาะ 4 ฟีเจอร์เด่นที่หัวเว่ยเขาใส่มาให้ในสมาร์ทแบนด์ราคาในงบ 1,300 บาท มาดูกันว่าคุ้มและน่าเป็นเจ้าของแค่ไหน! 1. สมาร์ทแบนด์ที่บางที่สุดที่หัวเว่ยเคยมีมา หน้าจอโค้ง 2.5D AMOLED ขนาดใหญ่ 1.47 นิ้ว แบบ Ultra-thin บางเบาเพียง 16 กรัม[2] HUAWEI Band 7 ได้รับการออกแบบให้มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวและบางเบา โดยตัวเครื่องบางเพียง 9.99มม. และเบาเพียง 16 กรัม2 ทำให้สามารถสวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกอึดอัด แถมยังใช้งานสะดวกด้วยหน้าจอดีไซน์สี่เหลี่ยมโค้ง 2.5D โดดเด่นออกมาจากสมาร์ทแบนด์ทั่วไปในท้องตลาด โดยใช้หน้าจอแบบ AMOLED FullView Display ขนาดใหญ่เต็มตา 1.47 นิ้ว หน้าปัด Watch Faces ที่มีให้เลือกมากกว่า 4,000 แบบ โดยสามารถตั้งค่าได้เองผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health 2. มอนิเตอร์ SpO2 อัตโนมัติ ตลอดวัน! ดูแลรอบด้านแบบ 24/7 อีกหนึ่งความโดดเด่นที่เห็นได้ไม่บ่อยนักในสมาร์ทแบนด์ก็คือความสามารถในการตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่ง HUAWEI Band 7 ให้มาในรูปแบบของฟีเจอร์ All-Day Automatic SpO2Monitoring1 ที่วัดได้แบบอัตโนมัติให้ตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมง เพื่อให้รู้เท่าทันสัญญาณบ่งชี้ที่สำคัญยิ่งต่อสุขภาพร่างกายของผู้ใช้ โดยนอกจาก HUAWEI Band 7 จะสามารถมอนิเตอร์ให้ได้อัตโนมัติแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนเมื่อค่า SpO2 ต่ำกว่าระดับที่กำหนดได้อีกด้วย Tips: HUAWEI Band…

แจกสูตรลัดฉบับคนรักงาน พลิกชีวิตให้เต็มประสิทธิภาพทุกด้านด้วย HUAWEI Smart Office Concept Solution 

แจกสูตรลัดฉบับคนรักงาน พลิกชีวิตให้เต็มประสิทธิภาพทุกด้านด้วย HUAWEI Smart Office Concept Solution  9

HUAWEI Smart Office คือ 1 ใน 5 ประสบการณ์ที่หัวเว่ยทุ่มเทพัฒนาและผลักดันเพื่อยกระดับประสบการณ์การทำงานแบบออฟฟิศอัจฉริยะ ขยายศักยภาพการทำงานเมื่ออุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ สามารถเชื่อมถึงกันและทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อและครบวงจรโดยมีศูนย์กลางเป็น “แล็ปท็อป” เชื่อมต่อกับทุกดีไวซ์ในอีโคซิสเต็มของหัวเว่ยได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านฟีเจอร์ที่เรียกว่า HUAWEI Super Device นั่นเอง  วันนี้เรามีตัวอย่างวิธีใช้งาน HUAWEI Super Device ที่มีมาให้ในแล็ปท็อปรุ่นล่าสุดอย่าง HUAWEI MateBook D16 และ HUAWEI MateBook 16s รวมถึงแท็บเล็ตระดับโปร HUAWEI MatePad Pro 11-inch มาเล่าให้ฟัง ไปส่องความล้ำด้วยกันเลย! 1. เชื่อมทุกดีไวซ์ง่ายด้วยปลายนิ้ว หน้าต่างของฟีเจอร์ HUAWEI Super Device ที่ปรากฏบนจอแล็ปท็อปจะแสดงไอคอนแล็ปท็อปไว้ตรงกลางและแสดงไอคอนดีไวซ์อื่นๆ ของหัวเว่ยที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงล้อมรอบไว้ เราสามารถเชื่อมต่อแต่ละดีไวซ์เข้าหากันได้ด้วยการ “ลากเพื่อเชื่อมต่อ” เพียงลากไอคอนเข้าหากันโดยไม่ต้องใช้สายใดๆ ให้ยุ่งยาก เพียงเท่านี้ ทุกอุปกรณ์ของหัวเว่ยที่เชื่อมต่อผ่าน HUAWEI Super Device ก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต มอนิเตอร์ สมาร์ทวิชั่น หรือหูฟังไร้สาย[1]…

ตอบข้อสงสัย ทำไม HUAWEI MatePad Pro 11-inch หน้าจอ OLED 120 Hz คือแท็บเล็ตประสิทธิภาพระดับโปรสำหรับการสร้างสรรค์ที่น่าจับตาที่สุดในเวลานี้

ตอบข้อสงสัย ทำไม HUAWEI MatePad Pro 11-inch หน้าจอ OLED 120 Hz คือแท็บเล็ตประสิทธิภาพระดับโปรสำหรับการสร้างสรรค์ที่น่าจับตาที่สุดในเวลานี้ 11

เผยโฉมอย่างเป็นทางการกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ OLED 120Hz ที่จัดเต็มประสิทธิภาพการสร้างสรรค์ระดับโปร ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันสำหรับการทำงานแบบมืออาชีพของนักธุรกิจ ผู้บริหาร คอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือแม้แต่นิสิตนักศึกษาที่ชื่นชอบประสบการณ์เหนือระดับและการใช้งานแบบ Smart Office อันสะดวกสบายและง่ายดายยิ่งกว่า พร้อมทลายข้อจำกัดแบบเดิมๆ ด้วย 5 คุณสมบัติเด่นที่เหนือชั้นและครบครันยิ่งกว่าที่เคย ไปติดตามกันเลยว่าความน่าสนใจของหนึ่งในไอเท็มที่ฮ็อตฮิตติดลมบนที่สุด ณ เวลานี้มีอะไรบ้าง หน้าจอใหญ่ขนาด 11 นิ้ว เผยภาพสวยโดดเด่น คมชัดแม้อยู่ในที่มืด เปิดโลกใบใหม่ที่ใหญ่และสวยกว่าเดิมผ่านหน้าจอ HUAWEI FullView Display แบบ OLED ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล แสดงสีบนหน้าจอได้ถึง 1.07 พันล้านสีและมีค่าความแม่นยำของสี △E <1[1] ถ่ายทอดรายละเอียดได้สมจริงในทุกมิติ แม้ในที่แสงน้อยและเต็มตาสุดๆ กับขอบจอบางเฉียบเพียง 4.2 มิลลิเมตร ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่กว้างขึ้นถึง 92% พร้อมการแสดงผลอย่างลื่นไหลสูงสุดถึง 120 เฟรมต่อวินาที ช่วยให้การจดบันทึกและวาดเส้นด้วยปากกาเป็นไปอย่างสมูธ อ่าน E-Book หรือข้อความขณะท่องเว็บก็ราบรื่น ทั้งยังเป็นแท็บเล็ตของหัวเว่ยรุ่นแรกที่ได้รับการรับรอง Full Care Display 3.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองที่ครอบคลุมที่สุดของ TÜV Rheinland การันตีลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาในระดับฮาร์ดแวร์ สามารถปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ได้ที่ความถี่สูง 1440 Hz เพื่อให้มองจอได้อย่างสบายตาในที่แสงน้อย…

สุดยอดหูฟังไร้สายระดับ 5 ดาว HUAWEI FreeBuds Pro 2 จากแบรนด์ระดับโลก HUAWEI และ Devialet 

สุดยอดหูฟังไร้สายระดับ 5 ดาว HUAWEI FreeBuds Pro 2 จากแบรนด์ระดับโลก HUAWEI และ Devialet  23

สายเล่นเครื่องเสียงและหูฟังแบบจริงจัง (Audiophile) จะรู้กันดีว่า เมื่อเราจะต้องเลือกซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหม่เพื่อส่งมอบความบันเทิงทางด้านเสียงดนตรี เรามักจะต้องเลือกแบบรักพี่เสียดายน้องอยู่เสมอ ว่าจะเอาตัวที่เน้น “คุณภาพเสียง” ที่สุนทรีย์ที่สุด หรือจะเอาแบบเน้น “ฟีเจอร์ด้านนวัตกรรม” ที่ล้ำที่สุด เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วหูฟังจากแบรนด์ต่างๆ มักจะมีจุดเด่นที่ไม่ได้ครบไปทุกด้าน แต่ต่อไปนี้คุณอาจไม่ต้องเลือกแบบได้อย่างเสียอย่างอีกต่อไป เมื่อแบรนด์ไอทีอย่างหัวเว่ยได้จับมือกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับพรีเมียมอย่าง Devialet เพื่อออกหูฟังน้องใหม่ HUAWEI FreeBuds Pro 2 เพื่อตอบโจทย์แบบครบหมดทั้งในแง่คุณภาพเนื้อเสียงและฟีเจอร์การใช้งาน เรามาแกะสเป็คนวัตกรรมเสียงดูไปพร้อมกันเลยดีกว่า ว่าหูฟังน้องใหม่ไฟแรงสูงคู่นี้จะสามารถเอาใจคอเครื่องเสียงได้ครบเครื่องขนาดไหน 5 ดาวกับคุณภาพพลังเสียง จากแบรนด์ลำโพงหรู Devialet สำหรับใครที่เป็นสายเล่นลำโพงเน้นดีไซน์คงจะต้องเคยผ่านหูผ่านตาแบรนด์ Devialet มาบ้างอยู่แล้ว เพราะรูปทรงของเครื่องเสียงและหูฟังเจ้านี้ดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร แบบสามารถนำไปตั้งประดับห้องและทำให้ห้องดูหรูหราขึ้นมาทันที นอกจากนี้คุณภาพเสียงก็นุ่มละมุน เก็บรายละเอียดเสียงเพลงได้ใกล้เคียงเสียงจริง การเข้ามาจับมือกันครั้งนี้ทำให้หูฟังของหัวเว่ยเป็นสิ่งที่น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับทั้งสายเครื่องเสียงและแก็ดเจ็ตไอที เพราะนั่นหมายความว่าคราวนี้แฟนหูฟังหัวเว่ยจะได้รับคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ที่ส่งจากมือ Devialet โดยตรง โดยหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 ได้บรรจุลำโพงคู่สุดกระหึ่ม Dual-Speaker True Sound พร้อมส่งมอบเนื้อเสียงที่แทบไม่ผิดเพี้ยนจากคุณภาพเสียงเวอร์ชันต้นฉบับ ทั้งยังรองรับเอฟเฟกต์เสียงอีกหลากหลายรูปแบบ การันตีคุณภาพเสียงด้วยไดรเวอร์ขับเสียงแบบแม่เหล็ก 4 ตัวแบบ quad-magnet dynamic driver ที่เป็นนวัตกรรมในวงการหูฟังที่นำมาใช้ใน HUAWEI FreeBuds Pro 2 เพื่อช่วยให้เจ้าของหูฟังได้รับคุณภาพเสียงที่เก็บครบในทุกรายละเอียดที่สุด ได้เสียงเบสที่หนักแน่น กระหึ่ม และได้เสียงโทนสูงที่สูงเป็นพิเศษจากไดรเวอร์ที่ใช้เทคโนโลยี planar diaphragm  5 ดาวกับเทคโนโลยีเสียงอัดแน่นติดท็อปวงการหูฟัง TWS…

HUAWEI MateBook 16s และ HUAWEI MateBook D 16 สองแล็ปท็อปทรงประสิทธิภาพหน้าจอ 16 นิ้ว

HUAWEI MateBook 16s และ HUAWEI MateBook D 16 สองแล็ปท็อปทรงประสิทธิภาพหน้าจอ 16 นิ้ว 25

การจะหาแล็ปท็อปมาไว้ใช้งานทั่วไปสักเครื่องหนึ่งคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะดียิ่งกว่าถ้าสามารถหาดีไวซ์ที่โดนใจทั้งประสิทธิภาพและรูปลักษณ์มาไว้ข้างกาย เวลานี้จะมีอะไรร้อนแรงไปกว่า HUAWEI MateBook 16s และ HUAWEI MateBook D 16 ที่หัวเว่ยรังสรรค์ความทรงพลังผสานไว้ในดีไซน์เรียบหรูมาพร้อมเสิร์ฟแล้ว พกติดตัวไว้รับรองได้ว่าเจองานแบบไหนก็ไม่มีหวั่น เอาอยู่ทุกความท้าทายได้อย่างมืออาชีพ ใครที่กำลังมองหาแล็ปท็อปตัวใหม่ มาติดตามความปังของสองน้องใหม่ล่าสุดจากตระกูล HUAWEI MateBook Series ในบทความนี้กันได้เลย หน้าจอใหญ่จุใจ 16 นิ้ว กับดีไซน์เรียบหรูสะดุดตา เริ่มกันที่ HUAWEI MateBook 16s ขุมพลังที่อัดแน่นในบอดี้ที่ทำจากโลหะอลูมิเนียมอัลลอยซึ่งบางเพียง 17.8 มิลลิเมตร และเบาเพียง 1.99 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว จะตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานอวดคนในออฟฟิศให้ตาลุกวาวหรือจะพกออกไปทำงานข้างนอกก็เสริมลุคให้ดูดีขึ้นอีกหลายระดับ โดดเด่นกว่าใครด้วยหน้าจอ HUAWEI FullView Display แบบทัชสกรีนขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K โดยมีอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90%[1] สะท้อนภาพที่สมจริงมากยิ่งขึ้นขอบเขตสี sRGB ที่ 100%[2] และเฉดสีที่มากถึง 1.07 พันล้านสีที่เนรมิตการไล่เรียงของสีได้สมจริง[3]ตอบโจทย์งานสายดีไซน์เนอร์ที่ต้องให้ความสำคัญกับสีสันเป็นพิเศษ ไม่ว่าชิ้นงานจะละเอียดแค่ไหนก็ออกมาเป๊ะ สำหรับ HUAWEI MateBook D 16 ก็ไม่น้อยหน้าเพราะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 16 นิ้วที่ขอบจอบางเฉียบเพียง 4.6 มม. และให้อัตราส่วนภาพ 16:10 มอบประสบการณ์ทำงานออฟฟิศที่คล่องตัว แถมยังเก็บรายละเอียดได้อย่างคมชัดและสมจริง ด้วยความละเอียด 1920×1200 พิกเซล ส่วนบอดี้ใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยมีน้ำหนักเบาเพียง 1.7 กิโลกรัมและบางเพียง 18.4 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงให้ความรู้สึกเสมือนใช้งานแล็ปท็อปขนาด 15.6 นิ้ว จึงพกพาติดตัวไปด้วยได้สะดวก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ซึ่งสามารถทำงานแบบ on-the-go ได้ทุกที่และทุกเวลา ประสิทธิภาพชนะเลิศ แจ้งเกิดได้ทุกงาน นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกจะดีงาม…

HUAWEI MateBook D 16 แล็ปท็อปหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว บางเบา แต่ประสิทธิภาพแรงไม่เบาบน 12th Gen Intel® Core™ H Series

HUAWEI MateBook D 16 แล็ปท็อปหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว บางเบา แต่ประสิทธิภาพแรงไม่เบาบน 12th Gen Intel® Core™ H Series 27

ในปัจจุบันแล็ปท็อปที่คนมองหาเป็นอันดับต้นๆ จะต้องความบางเบาเพื่อความสะดวกในการพกพา ซึ่งสอดรับกับเทรนด์การทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาหรือ Work from Anywhere ที่กำลังมาแรงทั่วโลก อย่างไรก็ตามแล็ปท็อปไซส์เล็กที่มีน้ำหนักเบามักจะมีประสิทธิภาพที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่ต่อไปนี้คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการทำงานนอกออฟฟิศไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอีกต่อไป เพราะหัวเว่ยกำลังจะเปิด HUAWEI MateBook D 16 ที่นอกจากจะมาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 16 นิ้วแล้ว ยังครบเครื่องทั้งเรื่องความสะดวกสบายในการพกพาและประสิทธิภาพในการใช้งานด้วย เปิดตัวในไทย 27 กรกฎาคม 2565 เตรียมจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย หาก HUAWEI MateBook D 16 คือแล็ปท็อปหน้าจอใหญ่สุดบางเบาที่ใช่ ตอบโจทย์ตรงใจทั้งในแง่น้ำหนักเบาเพียง 1.7 กิโลกรัมแต่ทรงพลังและครบครันด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะ เตรียมติดตามการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ พร้อมประกาศราคาและข้อเสนอพิเศษอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2565 นี้ได้เลย โดยสามารถสั่งจองได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store ที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยที่ร่วมรายการ ส่วนใครที่สนใจรุ่นชิปเซ็ต 12th Gen Intel® Core™ i7-12700H Processor เป็นพิเศษ ไปเตรียมตัวกดสินค้าใส่ตะกร้ากันได้บนร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยใน JD Central เท่านั้น ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ…

ความต้องการใช้งาน ‘Cloud’ ตัวเร่งให้องค์กรเปลี่ยนมาใช้ ‘SD-WAN’ เพิ่มมากขึ้น

ความต้องการใช้งาน ‘Cloud’ ตัวเร่งให้องค์กรเปลี่ยนมาใช้ ‘SD-WAN’ เพิ่มมากขึ้น 29

ปัญหาดั้งเดิมของระบบเน็ตเวิร์กในระดับบริษัทหรือองค์กรที่มีหลายสาขา คือความยุ่งยากในการบริหารจัดการระบบและความซ้ำซ้อนของโครงข่าย ทำให้มีการนำเทคโนโลยีของSoftware-Defined เข้ามาใช้ ทดแทน WAN แบบดั้งเดิม ภายใต้แนวคิดที่ว่ามันจะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถออกอินเทอร์เน็ตจากสาขาได้เลย และยังสามารถควบคุมความปลอดภัยของโครงข่ายจากส่วนกลางได้อยู่ ซึ่งมีความยืดหยุ่นและบริหารจัดการได้ง่ายกว่า เพื่อให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนใช้งาน Cloud ในกิจวัตรประจำวัน รวมถึงการมาของ Covid-19 ที่ทำให้พนักงานต้องทำงานจากที่บ้าน  ทำความรู้จัก SD-WAN ฉบับรวบลัด ก่อนหน้านี้ผมเคยอธิบายที่มาของ SD-WAN กันแล้ว ดังนั้นรอบนี้เราจะเล่าแบบกระชับนะครับ ถ้าว่าง่ายๆ SD-WAN ก็คือเร้าเตอร์ชนิดหนึ่งที่มีความฉลาดมากขึ้น ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาบริษัทที่มีหลายสาขา ที่ต้องการส่งข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงระหว่างสาขา ในขณะเดียวกันก็มีการต่อเน็ตออกสู่ภายนอกด้วย ทำให้มีการใช้งานทั้งแบบ Private Network และ Public Network ในเวลาเดียวกัน ภาระหน้าที่เลยตกอยู่ที่แผนก IT และการวางระบบเน็ตเวิร์ก ซึ่งการวางระบบแบบดั้งเดิมมี Pain Point อยู่หลายส่วน เช่น การต่อเน็ตออกภายนอกต้องวิ่งผ่าน HQ เสมอ ทำให้ช้าและระบบแบกภาระเยอะ การ Config. ระบบมีความซ้ำซ้อนและยุ่งยาก การวิเคราะห์ จัดการระบบรวมถึงการควบคุมการใช้งานแต่ละสาขาทำได้ยาก ด้วยปัญหาและข้อจำกัดต่างๆ เหล่านี้…

รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดีฉบับปี 2021

รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดีฉบับปี 2021 31

ในยุคที่ทุกคนต้องใช้ชีวิตแบบเร่งรีบแบบนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการเลี้ยงลูก ทำให้เราละเลยหรือเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดบ้านด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ดูจะเป็นเรื่องที่เราข้ามไปไม่ได้ เพราะเราคงหงุดหงิดใจแน่หากก้าวเท้าเข้าบ้าน แล้วเจอกับบ้านที่แสนสกปรกและไม่เป็นระเบียบ แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะยุค 4.0 นี้ ทำให้เทคโนโลยีถูกพัฒนาไปไกลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งจุดประสงค์หลักก็คงจะเป็นการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำของมนุษย์มากขึ้น และสิ่งนั้นก็รวมไปถึง ‘หุ่นยนต์ดูดฝุ่น’ ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าทุ่นแรงของพ่อบ้าน แม่บ้านทั้งหลายที่รักความสะอาด วันนี้เลยได้ยกข้อมูลคร่าว ๆ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแต่ละรุ่นมาให้ได้เลือกสรรกัน จะมีตัวไหนน่าจัดน่าโดนบ้าง มาดูกันเลย! Autobot พูดถึงหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแล้วจะไม่มีแบรนด์ Autobot ก็คงไม่ได้ เพราะแบรนด์นี้เขาเรียกได้ว่าเป็นผู้นำตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะอันดับ 1 ในไทย ที่มีประสบการณ์มากถึง 8 ปีเลยทีเดียว และความสามารถของรุ่น Autobot Storm 3 นี้ก็ไม่เป็นรองใคร เพราะนอกจากจะมีระบบนำทาง…

5 เหตุผลที่ vivo Y76 5G ทำให้เทศกาลหยุดยาวส่งท้ายปีมีความสุขยิ่งขึ้น

5 เหตุผลที่ vivo Y76 5G ทำให้เทศกาลหยุดยาวส่งท้ายปีมีความสุขยิ่งขึ้น 33

vivo Y76 5G นับเป็นอีกรุ่นที่พกจุดเด่นมามากมายในราคาไม่ถึงหมื่น และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมการมีสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ จึงทำให้วันหยุดยาวส่งท้ายปีถูกเติมเต็มให้ไลฟ์สไตล์เราสมบูรณ์แบบมากขึ้น สนุกได้ตั้งแต่คริสต์มาสจนถึงปีใหม่ รองรับ 5G ทั้ง SA และ NSA ใช้งานได้ลื่นไหลไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม มาถึงตอนนี้ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่า 5G ช่วยทำให้ชีวิตเราลื่นไหลมากขึ้นได้มากแค่ไหน ไม่ว่าการเล่นโซเชียล เล่นเกม หรือแม้แต่โหลดไฟล์งานขนาดใหญ่ ก็ทำได้รวดเร็วไม่ว่าเรากำลังสนุกอยู่ที่งานเลี้ยงหรือกำลังเดินทาง และต้องบอกว่าตอนนี้ 5G ก็ขยายพื้นที่ครอบคลุมมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการมี vivo Y76 5G ติดตัวจึงทำให้ชีวิตเราออนไลน์ได้รวดเร็วกว่า สำหรับเทคโนโลยี 5G เองถูกแบ่งเป็น 2 แบบคือ SA และ NSA โดยต่างกันดังนี้ NSA (Non-Standalone)…

รีวิว vivo Y76 5G ชาร์จเร็ว 44W จอ 6.58 นิ้ว ราคา 9,999 บาท

รีวิว vivo Y76 5G ชาร์จเร็ว 44W จอ 6.58 นิ้ว ราคา 9,999 บาท 35

ท้ายปี 2021 วีโว่ขยันเปิดรุ่นใหม่มากครับ ล่าสุดส่ง vivo Y76 5G ลงแข่งในตลาดอีก โดยรุ่นนี้จัดว่าออกแบบมาอย่างสมดุล หมายถึงว่าดีแบบรอบด้าน ไม่ได้เด่นด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ และก็ไม่มีด้านไหนที่ดูด้อยเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานจริงกับกิจวัตรในแต่ละวันครับ สรุปสั้นก่อนร่ายยาว vivo Y76 5G ใช้ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 700 อธิบายอย่างง่ายในแง่ความเร็วว่าอยู่ในกลุ่มซีรีส์ประมาณกลางๆ ดังนั้นสามารถใช้งานทั่วไปได้สบาย ไปจนถึงการเล่นเกมได้ลื่น โดยมีจุดเด่นคือเรื่องการบริหารจัดการพลังงาน ทำให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น และยังมีแรม 8GB พร้อมระบบ Extended RAM 4GB รวมเป็น 12GB กับหน่วยความจำภายใน 128GB แบตเตอรี่ 4100mAh กับระบบชาร์จเร็ว 44W…